เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. วันที่ 10 พ.ย. 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิหารแดง จ.สระบุรี ได้รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกันเสียชีวิตบริเวณบ้านเลขที่ 76/2 หมู่ 8 ต.หนองหมู อ.วิหารแดง จ.สระบุรี หลังรับแจ้ง จึงประสานไปยังกองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดสระบุรี พร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลวิหารแดงและอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู จุดสภ.วิหารแดง เดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น สีฟ้า ด้านหลังบ้านดังกล่าวเป็นสวนปลูกต้นดอกกุหลาบประมาณ 20 ไร่ ลักษณะปลูกเป็นร่องมีคูน้ำกั้น บริเวณคูน้ำหลังบ้าน พบเรือสำหรับใช้วิ่งรดน้ำต้นดอกกุหลาบ บนเรือพบศพนายอรุณ ศรียี่ทอง อายุ 50 ปี ชาว ต.บ้านพริก อ.บ้านนา จ.นครนายก สวมกางเกงยีน สีน้ำเงิน เสื้อแขนยาวลายสก๊อต สวมหมวกไหมพรม และสวมหมวกเชิงทับ สภาพนอนอยู่หัวเรือพิงกาบเรืออยู่
จาการตรวจสอบพบถูกอาวุธปืนลูกซองยาวยิงเข้าที่หน้าอกด้านซ้าย จำนวน 9 นัด ไหล่ขวา 4 นัดและที่ลำคอ 4 นัด รวม 17 นัด เสียชีวิต ห่างจากเรือบริเวณหลังบ้านหลังดังกล่าวประมาณ 6 เมตร ยังพบปลอกกระสุนลูกปืนเบอร์ 12 จำนวน 1 ปลอก ตกอยู่สภาพถูกยิงแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อนายปัญญา โพธาราม อายุ 68 ปี เป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว รอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ภายในบ้าน พร้อมอาวุธปืนลูกซองยาวที่ใช้ก่อเหตุ
จากการสอบถามนายฉัตรชัย โพธาราม อายุ 26 ปี ลูกชายของนายปัญญา ผู้ก่อเหตุ เล่าให้กับทีมข่าวฟังว่า ขณะเกิดเหตุไม่มีใครอยู่บ้าน มีแค่พ่ออยู่กับนายอรุณ 2 คน โดยไม่ทราบเลยว่ามูลเหตุที่พ่อยิงนายอรุณจากอะไร รู้แต่ว่าผู้เสียชีวิตมารับจ้างรดน้ำต้นดอกกุหลาบที่สวนหลังบ้านของพ่อ แต่พื้นที่ดังกล่าวพ่อตนได้ให้คนอื่นเช่าไปแล้ว และคนเช่าได้มาปลูกต้นดอกกุหลาบประมาณ 30 กว่าไร่ หลังเกิดเหตุพ่อโทรศัพท์บอกตนว่า ถูกนายอรุณมาหาเรื่องและก่อเหตุยิง ให้ตนโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ พ่อตนเป็นคนใจเย็นมีเหตุผล ตนเชื่อว่าผู้เสียชีวิตต้องมาหาเรื่องพ่อตนก่อน จนทำให้บันดาลโทสะ ส่วนปืนลูกซองยาวที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนมรดกของพ่อมีทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย
ทางด้านนายเสน่ห์ ศรีวิไล อายุ 64 ปี ชาว อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี เล่าว่า ตนได้เช่าที่ดินจากนายนายปัญญา เพื่อปลูกต้นดอกกุหลาบ 20 ไร่ แล้วตนได้จ้างนายอรุณ มารดน้ำต้นดอกดอกกุหลาบซึ่งเป็นวันแรก ให้ค่าแรงวันละ 300 บาท ตนเองไม่ทราบสาเหตุว่า มูลเหตุในครั้งนี้เกิดจากอะไร ตนได้พูดคุยกับนายปัญญา ว่าตนจะจ้างคนงานมารดน้ำต้นดอกกุหลาบ นายปัญญายังพูดคุยดีอยู่เลย ตนรู้สึกตกใจ เมื่อทราบข่าวที่นายอรุณมาถูกนายปัญญายิงเสียชีวิต การรดต้นดอกกุหลาบต้องใช้เรือวิ่งตามร่องคูน้ำ นายอรุณมารดน้ำสวนต้นดอกกุหลาบตั้งแต่เช้าแล้ว และจะแล้วเสร็จช่วงค่ำ ๆ ตนยังซื้อน้ำมันมาไว้ให้เติมเครื่องเรือเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ขณะเกิดเหตุมีผู้เสียชีวิตกับผู้ก่อเหตุอยู่กันแค่ 2 คนเท่านั้น
ในขณะที่ นางวันวิสา สนธิทรัพย์ อายุ 57 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิต เล่าว่า สามีของตนสนิทกันกับนายปัญญา ซึ่งบ้านของตนก็อยู่ตรงกันข้ามไม่ไกลจากบ้านของนายปัญญา ตนเองได้ยินเสียงปืนประมาณ 2 นัด แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร คิดว่าคนจุดประทัดไล่นก จนมีคนมาบอกว่ามีญาติของนายปัญญา ได้โพสต์ลงโซเซียลเกี่ยวกับการเสียชีวิตของใครซะอย่าง ตนจึงได้เดินมาดูจึงถึงรู้ว่าสามีตนถูกยิงเสียชีวิตแล้ว ตนกับสามีมีอาชีพปลูกกล้วยหอมได้ประมาณ 2 ปี ส่วนสามีตนเป็นคนนิสัยดีไม่ไปยุ่งกับใคร ทำแต่งาน ส่วนสาเหตุที่สามีตนถูกยิงเสียชีวิตในครั้งนี้ ตนไม่ทราบเลยว่าเกิดจากอะไร
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายปัญญา มาปากคำที่ สภ.วิหารแดง โดย นายปัญญา ได้ให้ปากคำโดยอ้างว่านายอรุณ ผู้เสียชีวิตเป็นคนร้ายจะเข้ามาขโมยทรัพย์สินภายในบ้าน จึงได้นำปืนลูกซองยาวที่เก็บไว้ในบ้านออกมายิงใส่นายอรุณ จนทำให้เสียชีวิต
นอกจากนี้ จากการสอบสวนยังพบว่านายปัญญา เคยเข้ารักษาตัวจิตเวชมาก่อนเมื่อหลายปีที่ผ่าน เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อจากคำให้การของนายปัญญา ต้องรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์และพยานแวดล้อม แต่ในเบื้องต้นได้ตั้งข้อหานายปัญญา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ส่วนศพผู้เสียชีวิตได้ให้อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งชันสูตรอย่างละเอียดที่สถาบันวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ต่อไป
ผู้สื่อข่าวจังหวัดสระบุรี รายงาน