นายแม่กุหลาบแห่งหอบุปผชาติ อิงฟ้า วราหะ ที่วันนี้ควง ชาล็อต ออสติน เผยโมเมนต์น่ารักจากคู่แข่งสู่คู่จิ้นสุดปังแห่งปี พร้อมเล่าเหตุการณ์ทำให้ทั้งคู่ทะเลาะกันจนถึงขั้นไม่มองหน้ากันมาแล้ว ผ่านทางรายการคุยแซ่บshow ช่องOne31
จากคู่แข่งเป็นคู่จิ้น อะไรทำให้กลายมาเป็นคนสนิทกัน?อิงฟ้า : มันเริ่มจากการที่เราประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ ในปี 2022 หนูเป็นตัวแทนมิสแกรนด์กรุงเทพฯ น้องก็มิสแกรนด์ชุมพร ก็มีการได้เป็นรูมเมทกันต่างๆ มีโมเมนต์น่ารักๆ ออกมา ก็ทำให้มีอิงล็อตเกิดขึ้น หลังจากจบการประกวดไปก็มีงานเข้ามา พอมีพรีเซ็นเตอร์ตัวแรก ภาพที่เราออกอีเวนต์ด้วยกันที่เซ็นทรัลเวิลด์ คนเยอะมาก จนเราตกใจ ตอนแรกเราอยู่ในกองเราไม่รู้ว่าแฟนคลับเรามากน้อยแค่ไหน แต่พอออกอีเวนต์ครั้งแรกคนเยอะมาก ก็คิดว่าน่าจะเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับวงการนางงาม
เธอเป็นสายเต๊าะเขา เคยคิดจริงบ้างมั้ย?
อิงฟ้า : มีช่วงโมเมนต์ที่มีความรู้สึกแบบนั้นขึ้นมา แต่ว่าด้วยความที่พออยู่ด้วยกัน ทำงานด้วยกันบ่อยมากๆ เวลาทำงานนอกสถานที่ก็จะมีเวลาได้นอนด้วยกัน เป็นรูมเมทในกองจนถึง ณ ปัจจุบัน ก็มีบ้างที่รู้สึกหวั่นไหวนิดนึง แต่ ณ ปัจจุบันรู้สึกว่า
หวั่นไหวกับชาล็อตยังไง?
อิงฟ้า : หนูว่าด้วยความที่เราอยู่ใน LGBTQ ที่เราคบได้ทุกเพศ เวลานั้นจะคบใครก็ไม่ได้ดูเรื่องของเพศแล้ว ดูที่ความสบายใจ ความแฮปปี้ของเรา มีช่วงนึงเราอยู่ด้วยกันบ่อยๆ จะมีหวั่นไหวนิดนึง ด้วยความน่ารักหรืออะไรก็ตาม มีช่วงนึงที่เกิดขึ้น
น้องเป็นสายอ้อน แกล้งพี่ เราหวั่นไหวยังไง?
ชาล็อต : ตอนทำงานเขาจะเป็นฝ่ายดูแลเราซะมากกว่า จะมีขนม มีการให้เราระวังโน่นนี่นั่น กระโปรงกันโป๊ต่างๆ ซึ่งได้รับการดูแลที่รู้สึกว่าไม่รู้พิเศษกว่าคนอื่นมั้ย แต่เราก็คิดไปในทางนั้น เราคิดว่าคงไม่ได้ชอบเขาหรอก เพราะพูดตรงๆ เมื่อก่อนหนูไม่ได้ชอบผู้หญิง ไม่ได้มองผู้หญิง แต่พอได้ทำงานไปเรื่อยๆ เริ่มลึกไปเรื่อยๆ เริ่มมีการสกินชิพมากขึ้น โดนตัว กอด หอมแก้มมากขึ้น ก็รู้สึกว่าเริ่มแปลกๆ เนอะ อารมณ์เหมือนเราชอบใครสักคนนึงเลย ก็คงชอบจริงๆ นั่นแหละ แต่คงไม่ได้ไปถึงจุดนั้น คิดว่าอยู่อย่างนี้ดีแล้ว ถ้าเป็นแฟนกัน คงตีกันตาย
ถ้าไปถึงจุดนั้นคิดว่ารอดมั้ย?
อิงฟ้า : จริงๆ เคยลองแล้ว อาจไม่ได้ออกมาพูดเป็นทางการ มาบอกทุกคนว่าเราเคยเหมือนถลำไปถึงตรงนั้นนะ ไม่รู้ต้องใช้คำไหน เราเคยบอกแฟนคลับนะ
ชาล็อต : มีจังหวัดนึงที่หนูไม่เคยได้คำตอบจากเขาเลย ว่าหนูทำอะไร เขาก็ไม่บอกด้วย ก็โอเค แต่ยังค้างคาใจจนถึงทุกวันนี้ ต่อให้เป็นสิบปีหนูก็ค้างคาใจว่าเรื่องอะไร
อิงฟ้า : ไม่อยากบอก เก็บไว้คนเดียวดีกว่า
มันคืออะไร ความลับของคุณ?
อิงฟ้า : จริงๆ ไม่มีอะไร แค่เหมือนเขาดื่ม แล้วเขาจำไม่ได้ว่าคืนนั้นเขาทำอะไรเราหรือเปล่า
ทำมั้ย?
ชาล็อต : หนูไม่รู้จริงๆ แต่คงไม่ถึงขั้นนั้นหรอกเนอะ
อิงฟ้า : ไม่ถึงขั้นนั้นค่ะ
หรือเอาแอบเผยความในใจ?
ชาล็อต : หนูก็ไม่รู้เหมือนกัน
คนเดียวที่รู้คืออิงฟ้า?
เคยลองอยู่จุดนั้น ณ โมเมนต์นั้นเป็นไงบ้าง?
อิงฟ้า : หนูว่าพอความเป็นพี่น้องกัน มันจะมีบางอย่างที่เรามีสเปซให้กัน แต่พอมุมมองความรักที่จะเป็นแฟนจริงๆ เขาจะรู้ว่าไทป์เขาประมาณนี้ ไทป์เราชอบคนประมาณนี้ มีหลายช่วงที่จะลองเปิดใจให้กันและกัน แต่มันก็อยู่ถึงจุดที่คิดว่าไม่ดีกว่า ไม่ได้มีใครผิดใครถูกนะ เป็นเรื่องความรู้สึกที่เรารู้สึกว่าถ้าเกิดปัญหานี้ปุ๊บมันจะทำงานกันลำบาก เราต้องทำงานด้วยกันอีกยาว ด้ายอายุสัญญาที่เราอยู่ด้วยกัน พอเป็นมุมความรู้สึกที่เป็นอิงล็อตมันก็คือดีแล้ว แฟนคลับก็น่าจะรู้ได้ถึงความธรรมชาติ เวลาเราทะเลาะกันคนก็น่าจะดูออกว่าเราไม่คุยกัน มันเฟกใส่กันยากมาก เราก็เก็บอาการไม่เก่ง เขาก็เก็บอาการไม่เก่งเช่นเดียวกัน
เราคุยกันเหรอว่าสถานะเป็นอย่างนี้?
ชาล็อต : ถ้าจุดเปลี่ยนก็คุยกันตรงๆ
ตอนนี้เป็นพี่น้องที่เอาใจใส่กันเหมือนเดิม คบกันไม่น่ารอด ทะเลาะกันเรื่องความสวย?
อิงฟ้า : ก็มีบ้าง
ชาล็อต : อย่างตอนนี้ก็พยายามเบี่ยงฝั่งเดียวกันอยู่ ไม่ได้โกรธกันนะ แต่เราสวยมุมเดียวกัน มันเป็นเรื่องหยุมหยิม
อิงฟ้า : บางทีเราจะมั่นใจมุมเดียวกัน เวลาถ่ายรูปก็จะเป็นแบบสวยซ้าย ฟีลนั้น
ยอมกันมั้ย?
อิงฟ้า : สลับบ้าง
ชาล็อต : แต่พอนานๆ ก็ปล่อย
อิงฟ้า : ไม่ได้ร้ายแรง
< เคยไม่ยอมกันถึงขั้นไม่มองหน้า? อิงฟ้า : ช่วงนี้ด้วยก็ได้นะ มันมีสองอย่าง บางเรื่องที่เราไม่มองหน้าไม่คุยกัน เราทั้งคู่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องอะไร บางทีมาเจอกัน ด้วยทั้งคู่ไม่พร้อมจะคุยกันเองมากกว่า ก็เหมือนไม่มีใครเข้ามาคุย ก็บอกไม่ถูก กับอีกเรื่อง เป็นเรื่องที่เราไม่สามารถพูดได้ เป็นเรื่องส่วนตัวไม่ได้บอกแฟนคลับว่าเราสองคนมีเรื่องอะไรในใจกัน มันก็พูดไม่ได้ มีสองแบบ เวลามีปัญหา ใครง้อใครก่อน? อิงฟ้า : ไม่เชิงง้อ มองหน้ากันแล้วก็พูดกัน มีนิดๆ ในใจ? อิงฟ้า : พร้อมเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ซึ่งเป็นกับเขาคนเดียวด้วยนะ กับคนอื่นไม่เป็น เขาก็ไม่เป็นกับใคร เป็นกับหนูนี่แหละ >
ชาล็อต : วันนี้เกือบใส่ชุดเหมือนกันนะ เราชอบมีความแต่งตัวคล้ายๆ กัน หรือเหมือนกัน โดยไม่ได้นัดกัน
อิงฟ้า : หนูก็เกือบใส่ชุดนี้มา ซึ่งไม่ได้นัดกัน เหมือนตอนไปมีตติ้งที่อเมริกา เป็นทรงเดียวกัน ลงมารองเท้าเหมือนกัน รองเท้าคล้ายกัน