วันที่ 30 พฤษภาคม 67 จากกรณี แป้ง นาโหนด หรือ นายเชาวลิต ทองด้วง อายุ 37 ปี หรือ “เสี่ยแป้ง นาโหนด” เป็นชาวตำบลท่าแค อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง นักโทษที่ก่อเหตุอุกฉกรรจ์หลายคดี ถูกจับกุมที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งมีประเด็นมีข้อสงสัยเกี่ยวกับลายยันต์บนหน้าอกของ แป้ง นาโหนด ว่าจะมีความศักดิ์สิทธิ์ว่าสามารถพาให้หายตัวหลบหนีการจับกุม ได้หลายเดือนเหมือนสามารถทำให้พรางสายตาเจาหน้าที่ได้
พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่า อาตมาเองก็มีลายสักยันต์ ซึ่งครูบาอาจารย์ท่านได้สักไว้ให้ ส่วนเรื่องจะมีวิชาอาคม คิดว่าเป็นการทำความดีของแต่ละบุคคลมากกว่า ที่คิดว่ามียันต์และแล้วมีอภินิหาริย์ หายตัวได้มันไม่ใช่ ซึ่งอาตมาก็สักมาแล้ว 30 กว่าปี ซึ่งเป็นเครื่องหมายของครูบาอาจารย์ท่านได้เป็นผู้สักไว้ให้
หลวพี่น้ำฝน กล่าวว่า ปัจจุบันคนรุ่นใหม่ก็ยังมีความเชื่อเรื่องการสักยันต์อยู่เพราะเป็นความศรัทธากันรุ่นต่อรุ่นกันแต่ก็ยังมีอยู่ในกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งซึ่งก็ยังสืบสานกันต่อไป ซึ่งก็เกิดจากความเชื่อและความศรัทธาที่มีอยู่
กรณีของแป้ง นาโหนด ก็เป็นเรื่องของบุญเก่าที่เคยได้สร้างได้ทำไว้ และกรรมที่ได้ทำขึ้นมานั้นก็ต้องแยกจากกัน ซึ่งต้องแยกประเด็นกัน ซึ่งเราดำเนินชีวิตเหมือนกันหมด ทั้งผ่านร้อนผ่านหนาว มาทั้งนั้น แต่ก็มีบุญเก่าที่ได้ใช้มาอย่างที่เห็น แต่พอบุญหมดก็เกิดอย่างที่เห็นนี้เหมือนกัน อาตมาภาพเชื่อเรื่องนี้ คือเรื่องของการดำเนินชีวิตเรื่องดวงชะตาในการดำเนินชีวิต ว่าเราจะวางแผนชีวิตอย่างไร” หลวงพี่น้ำฝนกล่าว
หลวงพี่น้ำฝน กล่าวปิดท้ายว่า การสัดยันต์ การบูชาวัตถุมงคล ซึ่งเจตนาจุดประสงค์ของการจัดสร้างคือการสร้างให้เป็นที่ระลึก ไม่ได้สร้างไว้ไม่ให้หลงงมงาย อภิธิปาฎิหาริย์ ที่เกิดขึ้นนั้น เกิดขึ้นจากจิตศรัทธาและการอธิษฐานของตัวเราเอง พระเดชพระคุณหลวงพ่อพูลก็สอนหลวงพี่และศิษยานุศิษย์ ไว้เช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นการสักยันต์หรือบูชาวัตถุมงคล ก็ลงไปในเรื่องเดียวกันคือเพื่อให้เป็นกำลังใจ และถ้าเราประกอบคุณงามความดี ก็จะทำให้เราดำเนินชีวิต มีศีล สมาธิ ปัญญา และขอฝากว่า ขยัน ซื่อสัตย์ อดทน และรู้บุญคุณคน คือทางดำเนินชีวิตที่มีความสุขแน่นอน
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.นครปฐม รายงาน