October 4, 2024

เศร้า! ด.ช.วัย 11 ขวบ ดิ่งตึกลาโลก ทิ้งจดหมายบอกพ่อแม่ ถึงพฤติกรรมของครูประจำชั้น จนพ่อต้องเปลี่ยนอาชีพ (ตปท.)

"เศร้า! เศร้า! ด.ช.วัย 11 ขวบ ดิ่งตึกลาโลก ทิ้งจดหมายบอกพ่อแม่ ถึงพฤติกรรมของครูประจำชั้น จนพ่อต้องเปลี่ยนอาชีพ (ตปท.)

เรื่องนี้มีที่มาจาก เว็บไซต์ต่างประเทศ  ได้นำเสนอเรื่องราวของนาย จาง ติงเจี๋ย และภรรยาของเขา ซึ่งอาศัยอยู่ในมณฑลเจียงซี ประเทศจีน ได้ต่อสู้เพื่อความยุติธรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อลูกชายคนเดียวของพวกเขา ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา หลังจากเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ.2564 เด็กชายจาง วัย 11 ปี ลูกชายของพวกเขา ได้ตัดสินใจจบชีวิตของตนเอง โดยการกระโดดลงจากหลังคาอาคารสูง 24 ชั้น ตรงข้ามโรงเรียนประถมของเขา

ซึ่งก่อนที่เด็กชายจะตัดสินใจลาโลกนี้ไป เขาได้เขียนจดหมายถึงพ่อและแม่ของเขา ระบุว่า การเสียชีวิตของผมนั้น ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพ่อแม่ สังคม หรือประเทศของผมเลย มันเกี่ยวข้องกับครูโจวที่ใช้มาตรการรุนแรงกับผมเท่านั้น โดยคุณครูผู้หญิงที่ถูกกล่าวถึงนั้น เป็นครูประจำชั้นของเด็กชายผู้เสียชีวิตรายนี้

นั่นจึงทำให้นายจางและภรรยา ได้ทำการตรวจสอบวิดีโอจากกล้องวงจรปิดของโรงเรียน และพบว่าครูคนดังกล่าวดูถูกลูกชายซ้ำแล้วซ้ำเล่าต่อหน้าทั้งชั้นเรียน และในวันที่เด็กเสียชีวิต เขาถูกครูโจวกล่าวหาว่า โกหกที่ไม่ส่งข้อสอบ และเนื่องจากมีหน้ากระดาษขาดในสมุด ครูคนนี้จึงทำให้นักเรียนอับอาย โดยครูถามเขาว่า นายยากจนแค่ไหน

นายจาง กล่าวด้วยว่า ในเวลานั้นลูกชายของเขาเริ่มมองออกไปนอกหน้าต่างห้องเรียนที่เป็นอาคารสูง ไม่เพียงเท่านั้น แต่ตอนนั้นจู่ ๆ ครูโจวยังเอ่ยแนะนำนักเรียนคนอื่นๆ ซ้ำ ๆ ว่า ควรกระโดดลงจากอาคารตรงข้ามโรงเรียน อย่างไรก็ตาม ครูโจวได้ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ ทว่า ครูรายนี้ก็ถูกทางโรงเรียนไล่ออก หลังจากนักเรียนเสียชีวิตได้ 2 เดือน

จากนั้น ก็เป็นเวลา 2 ปีติดต่อกัน ที่พ่อของเด็กชายผู้เสียชีวิตตัดสินใจลาออกจากงานตำรวจจราจร เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานฟ้องร้องครูโจว โดยเรียกร้องให้ต้องรับผิดทางอาญา จากตำรวจกลายมาเป็นทนายความ เพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้กับลูกชายของเขา

ในการพิจารณาคดีครั้งแรกในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2566 ครูโจว ถูกตัดสินว่าไม่มีความผิด เนื่องจากข้อมูลในวิดีโอวงจรปิดไม่มีหลักฐานเพียงพอ ที่จะเอาผิดฐานก่ออาชญากรรม แต่ในเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกันนั้น ผู้เป็นพ่อที่เสียใจมากกับการเสียชีวิตของลูกชาย ยังคงฟ้องร้องครูผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง และรอคำตัดสินอย่างมีความหวัง แต่ก็ยังไม่ได้รับความชัดเจนในเรื่องนี้

อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่มาเป็นทนายความ นายจางก็ได้ให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมายแก่คู่รักอีกหลายคู่ที่สูญเสียลูก ส่วนภรรยาของเขาซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านจิตวิทยา ได้ให้บริการฟรีแก่เกือบ 100 ครอบครัว ที่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่คล้ายกัน โดยทั้งคู่ได้รับคำชื่นชมมากมายบนโลกโซเชียลมีเดีย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *