เด็กชาย 11 ขวบ มีดวงตาที่ 3 มองทะลุสิ่งของ แม้อยู่ไกลระยะ 100 กม.ก็มองเห็น
เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 67 เพจ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า เด็กชาย 11 ขวบ มีดวงตาที่ 3 มองทะลุสิ่งของ แม้อยู่ไกลระยะ 100 กม.ก็มองเห็น หรือปิดตาปั่นจักรยาน ก็ไปได้ไกลกว่า 8 กม.โดยไม่ชนสิ่งกีดขวาง . กลายเป็นประเด็นในโลกโซเชียล เมื่อเด็กชาย อายุ 11 ขวบ เด็กนักเรียนชั้น ป. 5 ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในอำเภอชนแดน จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งผู้เป็นพ่อมีความเชื่อว่า ลูกชายเป็นเด็กมีความสามารถพิเศษ คือ มีดวงตาที่ 3 ที่สามารถมองเห็นได้แม้จะใช้ผ้าปิดตาเอาไว้
โดยที่ผ่านมา พ่อพยายามที่จะทดสอบว่าลูกสามารถมองทะลุผ้าปิดตา แล้วเห็นสิ่งต่างๆ ตามที่ลูกชายกล่าวจริงหรือไม่ สุดท้ายเมื่อทำการพิสูจน์ความสามารถพิเศษ ทั้งการใช้ผ้าปิดตา แล้วให้น้องปั่นจักรยานไปตามถนนก็สามารถทำได้โดยไม่ชนสิ่งกีดขวาง รวมไปถึงการเดินตามถนนภายในตลาด
โดยไม่ชนข้าวของหรือสิ่งกีดขวาง การอ่านเลขในธนบัตร การเลือกดูเมนูอาหาร การยิงปืนอัดลมใส่ขวดน้ำที่ตั้งอยู่จนขวดน้ำล้มลง โดยทุกอย่าง เด็กชายจะใช้ผ้าปิดตาเอาไว้ แล้วให้คนถ่ายคลิป และมีการนำคลิปไปโพสต์ลงใน X ซึ่งจากการกระทำดังกล่าว คนทั่วไปคาดว่าจะทำได้ยาก โดยผู้เป็นพ่อเห็นพฤติกรรมความพิเศษของลูกมาตั้งแต่ยังเล็ก แต่ตอนนั้นผู้เป็นพ่อมองว่าเป็นเรื่องบังเอิญ โดยก่อนหน้านี้ลูกชายแสดงออกให้พ่อและคนในครอบครัวเห็นความพิเศษ พ่อจึงตัดสินใจสั่งซื้อผ้าปิดตามาให้ลูกชายได้ทดลอง แล้วก็เป็นอย่างที่ว่า เขาสามารถมองทะลุผ้าปิดตา แล้วมองเห็นสิ่งต่างๆ ได้ แม้ว่าจะอยู่ห่างกันในระยะไกลนับ 100 กิโลเมตร
ต่อมา ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่บ้านหลังหนึ่ง ตำบลดงขุย อำเภอชนแดน จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อพบกับนายณัฐกรณ์ อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นพ่อของเด็กชาย โดยเผยว่า ตนทราบว่าลูกมีความพิเศษ ประมาณเดือนธันวาคมของปีที่แล้ว คือเริ่มมองเห็น และมองเห็นชัดเจนขึ้น ที่ลูกมองเห็นคือ ทุกอย่างแม้กระทั่งเศษหินเล็กๆ ลูกชายนั้นเคยปิดตาปั่นรถจักรยาน เป็นระยะทาง 8 กิโลเมตร คือเรื่องที่ลูกมองเห็นที่ผ่านมา ตนเองนั้นไม่เชื่อ แต่หลังจากมีการทดสอบ ไม่ว่าทางต่อหน้าหรือผ่านทางโทรศัพท์ ทำให้ปัจจุบันตนเชื่อว่าลูกน่าจะมีสัมผัสพิเศษ คือ ดวงตาที่ 3 . ด้านเด็กชาย อายุ 11 ขวบ เล่าว่า
ถ้าตนเองปิดตา จะสามารถมองเห็นได้ไกล 2-3 กิโลเมตร แต่สิ่งที่มองเห็น คือ เหมือนใช้ตาปกติในการมอง ตนเองมีความเชื่อว่าสามารถมองเห็นได้โดยใช้ผ้าปิดตา ซึ่งครั้งแรกตนเองก็เข้าใจว่าคิดไปเอง แต่มาระยะหลัง ตนมีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับภาพเห็นมากขึ้น สิ่งที่ตนเองเห็นนั้น มีเพื่อนบางคนเชื่อ บางคนก็ไม่เชื่อ ส่วนที่มีคนพิสูจน์ก็คือการปิดตาปั่นจักรยาน การทายเลขธนบัตร แล้วก็จะถามว่ามีธนบัตรกี่ใบ