รวบหนุ่มลักรถยนต์ ขณะเจ้าของจอดเข้าห้องน้ำปั๊ม อ้างเห็นติดเครื่องทิ้งไว้ จึงขับลงใต้จะไปหาเพื่อน
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB)โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.นโรตม์ ยุวบูรณ์ รอง ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.กฤตย์ ธีรเวศย์สุวรรณ รอง ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ต.วรฉัตร ฉลวยแสง สว.ส.ทล.2 กก.2 บก.ทล.
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำโดย ร.ต.อ.วิทยาพร พุฒิดำรง, ร.ต.ท.วรพงศ์ จั่นปาน, ร.ต.ท.กู้ศักดิ์ ปาละกะวงศ์ ณ อยุธยา รอง สว.สทล.2 กก.2 บก.ทล. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ สทล.2 กก.2 บก.ทล.
ได้ร่วมกันจับกุม นายกฤษพงศ์ฯ อายุ 35 ปี ในความผิดฐาน “ลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ” พร้อมด้วยของกลาง รถยนต์กระบะ ยี่ห้อมาสด้า สีบรอนซ์เงิน จำนวน 1 คัน
สถานที่จับกุม ถนนเพชรเกษมขาล่องใต้ กม.125-126 ต.ห้วยโรง อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี
พฤติการณ์ เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2567 เวลาประมาณ 08.00 น. ก่อนเกิดเหตุนายกมลฯ ผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของรถยนต์ ยี่ห้อมาสด้า สีบรอนซ์เงิน ป้ายทะเบียน นครสวรรค์ ได้จอดรถสตาร์ทติดเครื่องไว้ จากนั้นได้ลงไปเข้าห้องน้ำที่ปั้มน้ำมัน ปตท.ท่ากระเทียม จ.นครปฐม เมื่อกลับออกมาพบว่ารถยนต์ได้หายไป จากนั้นจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อติดตาม
ซึ่งต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำหน่วยบริการวังมะนาว ได้รับการประสานจากชุดสืบสวน สภ. เมืองนครปฐม แจ้งเหตุลักขโมยรถยนต์ดังกล่าว โดยทราบว่าผู้ก่อเหตุได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า สีขาวป้ายทะเบียน ราชบุรี ในการก่อเหตุ ก่อนจะทิ้งไว้ และขับรถยนต์คันดังกล่าวมุ่งหน้าลงภาคใต้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ทำการสืบสวนจนพบว่า รถคันดังกล่าวขับมุ่งหน้าลงใต้มาทางจังหวัดเพชรบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชุดจับกุมจึงใช้รถวิทยุ 2214 ออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบบนทางหลวง ถนนเพชรเกษม ขาออก ในเขตรับผิดชอบ ได้พบรถตามที่ได้รับแจ้ง บริเวณ ถนนเพชรเกษมขาล่องใต้ กม.125-126 ต.ห้วยโรง อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี จึงได้ร่วมกันหยุดรถคันดังกล่าวไว้ได้ ซึ่งผู้ขับขี่ยอมรับว่าได้นำรถคันนี้มาจริงโดยผู้ขับขี่ไม่ใช่เจ้าของรถ จึงแจ้งข้อกล่าวหา และนำส่ง พงส.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง โดยขับรถจักรยานยนต์มาที่เกิดเหตุ และเห็นรถยนต์คันดังกล่าวติดเครื่องจอดอยู่พอดี จึงลักรถยนต์คันดังกล่าวเพื่อจะขับไปหาเพื่อนที่อยู่ที่พื้นที่ภาคใต้
ทั้งนี้จากกาาตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาเคยถูกดำเนินคดีลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ที่ สภ.สวนผึ้ง เมื่อ ก.ย.66
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ฝากประชาสัมพันธ์เตือนภัย สำหรับการลักลอบนำทรัพย์สินของราชการ หรือทรัพย์สินที่ไว้เพื่อเป็นประโยชน์สาธารณะ มีความผิดฐาน ” ลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกในการกระทำความผิด ” ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 334 ,336 ทวิ มีอัตราโทษที่หนักกว่าลักทรัพย์ทั่วไปกึ่งหนึ่ง