รวบแก๊งขนคนจีนหนีเข้าเมือง ยึดซิมมือถือกว่า 2,000 ชิ้น คาดเอี่ยวเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหาขนแรงงานต่างด้าว จำนวน 1 ราย และผู้ต้องหาต่างด้าวชาวจีน 3 ราย 1. นายณรงค์ฯอายุ 53 ปี สัญชาติ ไทย 2. นายไห่ฯอายุ 25 ปีสัญชาติ จีน 3. นายเฉินฯ อายุ 31 ปีสัญชาติ จีน 4. นายหลินฯอายุ 31 ปีสัญชาติ จีน ในข้อหา ผู้ต้องหาที่ 1 ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้น พ้นจากการจับกุม ผู้ต้องหาที่ 2 – 4 เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต สถานที่จับกุม บริเวณถนนสาย สุโขทัย – ตาก ทล.12 กม.109 ต.น้ำรึม อ.เมืองตาก จ.ตาก

พฤติการณ์ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงตากกำลังปฏิบัติหน้าที่ออกตรวจในเขตพื้นที่รับผิดชอบ บนถนนทางหลวงหมายเลข 12 สาย สุโขทัย – ตาก กม.109 พบรถต้องสงสัยยี่ห้อ โตโยต้า อัลติส สีเทา ขับผ่านมาด้วยความเร็ว เจ้าหน้าที่จึงขับรถวิทยุไล่ติดตามและส่งสัญญาณให้หยุดรถเพื่อขอตรวจสอบ จากการตรวจสอบพบ นายณรงค์ฯ เป็นผู้ขับขี่ ตรวจสอบห้องโดยสารภายในรถ พบชายชาวต่างชาติ 3 คน ตรวจสอบเบื้องต้นเป็นคนจีน ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารรับรองบุคคลแต่อย่างใด จึงสันนิษฐานได้ว่า เป็นบุคคล ต่างด้าวเข้าเมืองมาโดยผิดกฎหมาย

สอบถามนายณรงค์ฯ คนขับรับว่า ได้ไปรับคนจีนต่างด้าวทั้งหมดมาจาก รีสอร์ทแห่งหนึ่งใน จ.สุโขทัย เพื่อไปส่งยัง อ.แม่สอด จ.ตาก ทำมาแล้ว 2 – 3 ครั้ง ได้รับค่าจ้าง ครั้งละ 3,000 บาท สุดท้ายไม่รอด ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองตาก ดำเนินคดีต่อไป

จากการตรวจสอบคนจีนต่างด้าวทั้ง 3 คน เจ้าหน้าที่พบซิมการ์ดมือถือต่างประเทศ ซึ่งยังไม่ได้เปิดใช้ กว่า 2,000 ชิ้น และโทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง จากหลักฐานน่าเชื่อได้ว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องเครือข่าย แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทั้งนี้ อยู่ในระหว่างการสืบสวนขยายผลต่อไป

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยผู้ต้องหาชาวจีนให้การว่า เมื่อ 2-3 วันก่อน พวกตนได้เดินทางมาจากประเทศกัมพูชาโดยโดยสารมาทางเครื่องบินมาลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ จากนั้นได้มีเพื่อนมารับไปพักโรงแรมใกล้ๆ กับสนามบินสุวรรณภูมิ และต่อมาในวันที่ 8 มิ.ย.67 เพื่อนของตนได้ให้พวกตนขึ้นรถจากกรุงเทพฯ เพื่อจะเดินทางมาที่ อ.แม่สอด จ.ตาก โดยพวกตน ได้เข้าพักที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งก่อนที่ช่วงเช้าจะมีรถมารับเพื่อเดินทางไปต่อที่ประเทศเมียนมาร์ ซึ่งในส่วนของ ซิมมือถือที่ตรวจพบ ผู้ต้องหาชาวจีนได้ให้การว่าไม่ได้เป็นเจ้าของ และอ้างว่าทางเพื่อนได้ให้เอาใส่รถมาด้วย