October 31, 2024

เทปแรกมาแล้ว! ‘คุยกับเศรษฐา’ ลั่นไม่แก้ตัว เดินสายตปท.ถี่ ไฟต์บังคับ ดึงนักลงทุน

เทปแรกมาแล้ว! ‘คุยกับเศรษฐา’ ลั่นไม่แก้ตัว เดินสายตปท.ถี่ ไฟต์บังคับ ดึงนักลงทุนเทปแรกมาแล้ว! ‘คุยกับเศรษฐา’ ลั่นใจไม่แก้ตัว เดินสายต่างประเทศถี่ ไฟต์บังคับ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ดึงดูดนักลงทุน ย้ำหลายประเทศสนใจลงทุนในไทย<

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 22 มิ.ย. 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “คุยกับเศรษฐา” ซึ่งวันนี้เป็นการออกอากาศครั้งแรกทางสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ตั้งแต่เวลา 08.00-08.30 น. โดยนายกฯ กล่าวถึงการเดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งมีคนบอกว่าเดินทางไปเยอะมาก ไปเพื่ออะไร ว่า ไม่ได้แก้ตัว แต่เรื่องของการไปต่างประเทศ จริงๆ แล้วตนไปมา 15 ครั้ง กว่าครึ่งเป็นไฟต์บังคับ จะไม่ไปไม่ได้

ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าในรัฐบาลก่อน เรื่องลำดับความสำคัญของเขา เขาอาจจะทำเรื่องอื่นที่เขาเห็นความสำคัญมากกว่า แต่ตอนนี้มาถึงตรงนี้ เรื่องการค้าระหว่างประเทศ เรื่องความอ่อนบางทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ ทำให้การลงทุนข้ามชาติมาที่ประเทศไทยเป็นเรื่องที่สำคัญ

ถ้าเราไม่ไปเชื้อเชิญและไปบอกเขาว่าประเทศไทยเปิดแล้ว ไม่มีเวลาไหนที่จะดีเท่าเวลานี้ที่มาลงทุนที่ประเทศไทย เขาจะทราบหรือไม่ ตนว่าต้องไป แล้วการลงทุนกลับมาแต่ละครั้งเป็นหมื่นล้านเป็นแสนล้าน ซึ่งแน่นอนว่ายังไม่เกิดขึ้น อาจจะอยู่ขั้นตอนการพิจารณา แต่การทำงานเราต้องทำทั้งหมดทุกประเทศ เราต้องไปทุกบริษัทที่เขามีศักยภาพมาลงทุนในประเทศไทยได้ ฉะนั้น ตรงนี้ถือว่าเป็นหน้าที่ของตนในฐานะนายกฯ

สำหรับผลการไปต่างประเทศ โดยรวมแล้วเป็นบวกมาก เพราะได้รับการยอมรับจากต่างประเทศ ประเทศไทยเหมาะสมสำหรับการลงทุน บางเรื่องได้รับการประสานงานร่วมกันระหว่างผู้แทนการค้าไทย บีโอไอ และหลายๆ หน่วยงาน รวมถึงสถานทูตไทยได้เชิญชวนกันไปโฆษณาว่าประเทศไทยมีอะไรดี ไม่ว่าจะเป็นพลังงานสะอาด เราพร้อม Incentive จากบีโอไอ เรามีเหนือกว่าประเทศอื่น

เรามีรอยยิ้ม เรามีค่าครองชีพที่เหมาะสม เรามีโรงเรียนนานาชาติที่ดีกว่าประเทศเพื่อนบ้าน เรามี Health care system ที่มีมาตรฐานสูงกว่าหลายๆ ประเทศ นักลงทุนจากต่างประเทศที่เขาจะย้ายถิ่นฐานมา เขามีความมั่นใจ เรื่องของการที่เรามีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเยอะ ทำให้เมื่อมาลงทุนแล้วเขามั่นใจว่าที่นี่มั่นคง

นายกฯ กล่าวถึงจุดยืนการทูตของไทยว่า เราไม่เป็นคู่ขัดแย้งกับประเทศไหน ที่ตนเดินทางไปต่างประเทศมาจากการลงทุน จาก EU หรือจากออสเตรเลีย หรือจากจีน หรือจากสหรัฐอเมริกา ทุกประเทศอยากมาลงทุนประเทศไทย ถึงแม้จะมีคู่ขัดแย้งกันเองก็ตามที เพราะเขามั่นใจว่าประเทศไทยจะให้ความเป็นธรรมกับทุกๆ ฝ่าย ถ้าเกิดมีปัญหาเกิดขึ้น ฐานผลิตของเขา Supply chain ของเขาไม่ถูกขัด อันนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก ทุกคนให้ความมั่นใจกับประเทศไทย

ฉะนั้นก็เป็นที่มาที่ไปทำไมเราจึงอยากเป็น Aviation Hub ขยายสนามบินสุวรรณภูมิจาก 60 ล้านคนกลายเป็น 150 ล้านคน สร้างเทอร์มินัล สร้างรันเวย์เพิ่ม ทำไมเราจึงอยากมีแลนด์บริดจ์ ในการขนส่ง ไม่ใช่แค่ประหยัดระยะทางที่ลงไปช่องแคบมะละกาอย่างเดียว หรือประหยัดค่าใช้จ่ายอย่างเดียว

ในอนาคตถ้าเกิดมีคู่ขัดแย้งเยอะ แล้วประเทศที่ควบคุมโลจิสติกส์การเดินทางทั้งหลายไม่เป็นกลาง ก็ทำให้เส้นทางการขนถ่ายสินค้าเขามีปัญหา แต่ถ้าเราเป็นประเทศเป็นกลาง เขาก็มั่นใจว่าการดูแลการขนถ่ายสินค้าของทุกๆ ประเทศจะได้รับการดูแลอย่างเป็นธรรม ตนเชื่อว่าการตัดสินใจมาลงทุนของเขาก็จะมีความเป็นไปได้สูงขึ้น

นายกฯ กล่าวว่า การเดินทางไปต่างประเทศไปเพื่อแนะนำตนเอง และที่สำคัญคือนำมาซึ่งความมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของคนไทย จากการลงทุนที่ต่างชาติจะมาขยายการลงทุนที่ประเทศไทย แต่ทุกๆ อย่างใช้เวลา เช่น เราจะ Move จากอุตสาหกรรมที่มีกำไรน้อย ไปสู่อุตสาหกรรมกำไรสูง Low tech เป็น High tech Industry ไม่ได้สร้างได้ภายในวันเดียว ต้องมีวิธีการหลายๆ อย่าง เช่น การตัดสินใจในการซื้อ พื้นที่ งบลงทุน

โดยเร็วๆ นี้จะประชุมกับ รมว.อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เรื่องการที่เราจะต้องยกระดับ Skillsets ของแรงงานไทย เรื่องของการที่สถาบันอุดมศึกษาของไทยมี Arrangement กับบริษัทยักษ์ใหญ่ มี Training program แทนที่จะเทรนกันแค่ 3 เดือน เขาขอร้องให้อว.ออกมาเลย เทรนมาเลยเก้าเดือนหรือปีหนึ่ง และถือเป็นส่วนหนึ่งของ Curriculum ด้วย เวลาจบไปก็จะได้ทำงานต่อได้เลย ทั้งนี้ จะพยายามพูดคุยกันต่อ มีเรื่องของรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ต้องคุยกันเยอะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *