สาวเล่า กลับชาติมาเกิดเป็นเหลนตัวเอง 2 รอยสัญลักษณ์ คนรู้ทั้งบ้าน
จากกรณีผู้ใช้ติ๊กต็อกรายหนึ่ง โพสต์รูปภาพ ที่ตัวเองถ่ายคู่กับรูปของหญิงชราท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นทวดของเธอเอง และบอกว่านี่คือเธอเมื่อชาติที่แล้วกลับมาเกิดเป็นเหลนตัวเอง พร้อมระบุแคปชั่นว่า เกือบไม่ได้เกิดแล้ว
ล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 วันที่ 24 มิ.ย.67 คุณปริ๊นซ์ เจ้าของโพสต์ดังกล่าว เปิดเผยกับ ระบุว่า ครอบครัวรู้ตั้งแต่แม่คลอดตนแล้วว่า ตนคือยายทวดกลับชาติมาเกิด เนื่องจากตนมีรอยคล้ายรอยปูนแต้มสีน้ำตาลอยู่บนร่างกาย 2 จุด เป็นเหมือนสัญลักษณ์ที่คนสมัยก่อนทำไว้ เผื่อกลับชาติมาเกิดเป็นลูกหลานตนเอง ซึ่งตอนนี้ก็ยังมีรอยนั้นอยู่
เมื่ออายุประมาณ 4-5 ขวบ ตนก็เริ่มระลึกชาติในอดีตได้ว่าชาติที่แล้วตนคือ “นางอ่อน พุ่มจันทร์” ผู้ซึ่งมีศักดิ์เป็นยายทวดของตน เสียชีวิตไปตั้งแต่ พ.ศ.2524 ก่อนตนเกินประมาณ 5 ปี
ในตอนนั้นตนก็เกิดความรู้สึกอยากไปวัดแถวบ้าน พอไปถึงก็เดินไปยังที่เก็บอัฐิของ “นายจันดี พุ่มจันทร์” สามีของนางอ่อน ซึ่งเป็นตาทวดที่เสียชีวิตในภายหลัง เมื่อเจอกับอัฐิ ตนก็เกิดความรู้สึกเศร้าและยืนร้องไห้อยู่ตรงนั้น
หรือในตอนที่บ้านมีงานบุญ ยายพูดว่า “ทำไมปริ๊นซ์ดูแปลก ไม่เหมือนเด็กซนทั่วไป ดูพูดจารู้เรื่อง สงสัยจะโดนเข้าสิง” ตนก็หันกลับไปมองหน้ายาย พร้อมพูดว่า “กูไม่ใช่ผีนะ กูมาเกิดแล้ว” ตอนนั้นทุกคนจึงมั่นใจว่าตนคือยายอ่อนกลับชาติมาเกิด รวมถึงตนเคยเดินขึ้นไปบนห้องของยาย เจอมีรูปถ่ายรวมในสมัยก่อน ตนเห็นรูปผู้หญิงคนนึงซึ่งคือยายอ่อน เกิดเป็นความรู้สึกที่อธิบายออกมาไม่ถูก แต่ต้องรู้ให้ได้ว่าคนนี้คือใคร
ในช่วงก่อนที่แม่จะคลอดตนนั้น แม่ฝันว่ายายอ่อนจะมาเกิด ซึ่งตอนแรกจะมาเกิดกับเพื่อนชื่อนวล ที่รู้จักจากมิติหลังความตาย โดยจะมาเกิดเป็นแฝด พร้อมบอกแม่ว่า “คนขาวคือนวลนะ คนดำๆ คือกูเนี่ยแหละ” และให้แม่ไปคิดก่อนว่าโอเคไหมกับลูกแฝด
ต่อมาแม่จุดธูปเพื่อจะบอกว่าพร้อมรับลูกแฝด แต่กลับรู้สึกได้ว่ายายอ่อนมาหาที่บ้าน เลยยกมือไหว้บอกให้มาแค่ในฝันพอ ซึ่งในฝันยายอ่อนกลับบอกว่า “ทำไมมึงนานจัง กูรอนานมากแล้ว จนจะไปเกิดหนีมึงไปเกิดกับคนอื่นแล้ว ตอนนี้เหลือกูคนเดียวนะ อีนวลไปเกิดแล้ว” ทั้งที่เวลาผ่านไปแค่คืนเดียว
ในการระลึกชาตินั้น ตนไม่ได้ระลึกได้ทั้งหมด 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ภาพจะมาเป็นช่วงๆ เรื่อยๆ เป็นภาพในสมัยก่อนเป็นลักษณะทุ่งนาเขียวขจี โดยตนอยู่ในชุดสมัยก่อน ตำหมากเคี้ยวเอง และสูบยาเส้น ไม่ใช่กุลสตรีแต่อย่างใด พอพยายามจะนึกต่อก็จะมีอาการปวดหัว
พอโตมาไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้ต่อ ภาพเหล่านั้นก็หายไป แต่ล่าสุดพอมาลงติ๊กต็อก ผ่านไป 2-3 วัน ภาพนั้นก็กลับขึ้นมาอีก เป็นภาพที่ตนใส่ผ้าถุงเดินหลังค่อมไปงานศพและเอามือจับที่โลงไว้ ซึ่งเป็นงานศพของยายอ่อน หรืองานศพของตนในชาติที่แล้ว รวมถึงฝันว่ายายอ่อนบอกให้ไหว้ ตนก็งงว่า ให้ตนไหว้ตัวเองหรือ? รวมถึงตอนที่ไลฟ์เล่าเรื่องนี้ลงในติ๊กต็อก ก็ไม่มีใครกดอัดคลิปติด มีคนอัดติดแค่คนเดียว แต่พอไปลงคลิปไปก็เครื่องก็ดับ
ภาพถ่ายคู่ยายอ่อนที่โพสต์ลงติ๊กต็อก ตอนนั้นตนอายุประมาณ 30 กว่า วันนั้นที่ถ่าย ตนไปนอนกับยาย จึงพูดถึงเรื่องยายอ่อนอีกครั้ง โดยยายบอกว่า เขาเป็นคนดีนะ และถามตนว่าตอนนี้ยังจำอะไรได้ไหม ตนก็มองหน้ายายว่ายายถามทำไม ส่วนยายก็กลัวและบอกว่า “มึงอย่ามองหน้ากูอย่างนี้สิ” ตนจึงเล่าว่าเวลาพยายามนึกจะมีภาพมาเพียงนิดเดียวแล้วก็ปวดหัว ยายจึงบอกว่า “เขาคงอยากให้เรารู้แค่นี้แหละ” หลังจากนั้นตนจึงขอถ่ายรูปคู่กับรูปของยายอ่อน ซึ่งรูปดังกล่าวเป็นรูปที่ตั้งในงานศพ ทั้งเก่าและเลอะเลือน พอถ่ายคู่ก็เหมือนกับว่า ได้ถ่ายรูปกับตัวเองชาติที่แล้ว
ตนนั้นไม่ได้รู้สึกกลัวหรือแปลกใจอะไร เพราะรู้เรื่องการระลึกชาติและกลับชาติมาเกิดตั้งแต่เด็ก รวมถึงตนก็เป็นคนมีเซนส์ ซึ่งสัมผัสได้ว่า เวลาที่เผชิญช่วงแย่ๆในชีวิต จะมีบางอย่างมาช่วยอยู่ตลอดเวลา เหมือนมีอะไรคุ้มครอง คนรอบตัวจะรู้ดีว่าตนจะไม่เคยถึงจุดที่แย่ที่สุด พร้อมฝากบอกหลายคนที่เป็นเหมือนตนว่า ให้ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันดีกว่า การได้กลับชาติมาเกิดนี้คงเป็นบุญเลยได้กลับมาเกิดเป็นคนอีกครั้ง จึงอยากให้ทุกคนหมั่นทำความดีไว้