หลายคนคงคุ้นเคยกับตัวอักษร R บนแก้มยางกันดีอยู่แล้ว ซึ่งย่อมาจากคำว่า Radial ที่หมายถึงโครงสร้างยางแบบเรเดียล แต่หากใครที่ใช้รถยุโรปหรือรถสมรรถนะสูงก็มักจะเจอกับรหัส ZR แทนตัว R เพียงอย่างเดียว แล้วเคยสงสัยหรือไม่ว่าทั้ง 2 แบบแตกต่างกันอย่างไร? วันนี้เราจะพาหลายคนที่สงสัย ไปหาคำตอบกัน
ตัวอักษร R หมายถึงอะไร
โดยปกติแล้วยางรถยนต์ทุกเส้นจะระบุรายละเอียดเกี่ยวกับขนาดไว้บนแก้มยาง ยกตัวอย่างเช่น 195/60 R16 ซึ่งตัวเลขและตัวอักษรแต่ละตัวมีความหมายดังนี้
– 195 หมายถึง ขนาดความกว้างของหน้ายาง หน่วยเป็น มม.
– 60 หมายถึง ความสูงแก้มยาง โดยเป็นค่าความสัมพันธ์ระหว่างความสูงแก้มยางและความกว้างหน้ายาง (ในที่นี้หมายถึงความสูงแก้มยางคิดเป็น 60% ของความกว้างหน้ายาง)
– R หมายถึง โครงสร้างยางแบบ Radial
– 16 หมายถึง ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางล้อ
R ย่อมาจากคำว่า Radial (เรเดียล) บ่งบอกถึงโครงสร้างยางที่ถูกขึ้นรูปด้วยเส้นใยเหล็ก มีความทนทานสูง แก้มยางอ่อนนุ่ม นิยมใช้กับรถยนต์ทั่วไป อีกทั้งยังมียางอีก 2 ประเภท ได้แก่
– ยาง Bias เป็นโครงสร้างทำจากชั้นผ้าใบที่จัดเรียงทำมุมต่อกัน แต่ละชั้นถูกวางไว้เพื่อให้เส้นใยมีรูปแบบเป็นกากบาท แก้มยางมีความแข็งแรงสูง รองรับน้ำหนักได้มาก เหมาะสำหรับใช้ในรถจักรยานยนต์ โดยแก้มยางจะระบุเป็น “-” เช่น 120/70 – 12
– ยาง Bias Belted เป็นโครงสร้างยางแบบ Bias ที่เสริมความแข็งแรงด้วยเข็มขัดรัดหน้ายาง ทำให้ยางมีความแข็งแรงเพิ่มมากขึ้น เหมาะสำหรับใช้กับรถจักรยานยนต์ที่มีน้ำหนักมาก แก้มยางจะระบุเป็น “B” เช่น 120/70 B12
ตัวอักษร R และ ZR แตกต่างกันอย่างไร
หากใครใช้รถยุโรปหรือรถสมรรถนะสูงอาจจะพบเจอรหัส ZR แทนที่รหัส R เพียงตัวเดียว โดยที่ R ยังคงหมายถึงโครงสร้างยางแบบ Radial ส่วนตัวอักษร Z ที่เพิ่มขึ้นมานั้น บ่งบอกว่าเป็นยางสมรรถนะสูงที่รองรับความเร็วได้มากกว่า 240 กม./ชม. ขึ้นไป
โดยบริเวณแก้มยางจะระบุ Speed Rating ที่แน่ชัดของยางแต่ละเส้นเอาไว้ คือ V, W หรือ Y ซึ่งมีความแตกต่างกัน ดังนี้
V หมายถึง รองรับความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม.
W หมายถึง รองรับความเร็วสูงสุด 270 กม./ชม.
Y หมายถึง รองรับความเร็วสูงสุด 300 กม./ชม.