เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 19 ก.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากผู้ปกครองนักเรียนชั้น ป. 1 โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในอำเภอกบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ว่า ด.ช.วุฒิภัทร์ (ขอสงวนนามสกุล) หรือ น้องไนท์ อายุ 7 ขวบ ถูกครูที่โรงเรียนทำโทษเพราะแต่งกายชุดลูกเสือมาโรงเรียนติดเครื่องหมายไม่ครบ
โดยสั่งทำโทษให้นักเรียนวิ่งรอบสนาม จำนวน 5 รอบ ทำให้เด็กหายใจไม่ออก โรงเรียนจึงได้ประสานให้ผู้ปกครองเดินทางมารับ พร้อมนำส่งไปรักษาตัวที่คลีนิคแพทย์ในพื้นที่ แต่เด็กมีอาการหนักขึ้นจึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาลกบินทร์บุรี จนกลางดึกได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาล
ต่อมา ทางผู้ปกครองได้นำร่างเด็กที่เสียชีวิต ไปตั้งบำเพ็ญกุศลศพ ณ ศาลาการเปรียญ วัดโคกอุดม ต.หนองกี่ อ.กบินทร์บุรี ได้สร้างความเสียใจกับผู้ปกครองและญาติเป็นอย่างมาก จนทำให้บรรยากาศบริเวณศาลาการเปรียญเป็นได้ด้วยความเศร้าโศก จากการจากไปของน้องที่ยังไม่ถึงวัยอันควร
จากการสอบถามนายวิทวัตร เครือโสม บิดาของเด็ก ซึ่งกำลังยืนดูร่างอันไร้วิญญาณของลูกชายด้วยน้ำตาที่สูญเสียลูกชายไป กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้า เวลาประมาณ 09.00 น.ทางครูประจำชั้นได้โทรมาหาแม่น้อง หลังจากนั้น ได้ไปรับลูกที่หน้าโรงเรียน คุณครูบอกว่าจะเอาออกมาส่ง ตอนนั้นน้องบอกว่าไม่ไหวน้องเป็นคนพูดเอง น้องจะพูดเองเพราะน้องเป็นคนกล้าพูด ว่าเขาไม่ไหว
ทางโรงเรียนน่าจะไม่รู้ว่าน้องมีโรคประจำตัว ถ้าถามว่าครูควรจะรู้ไหม น่าจะรู้ ควรจะคัดกรองดูว่า เด็กเขาไหวไหมกับกิจกรรมหนักขนาดนี้ ลูกชายถูกครูในโรงเรียนทำโทษให้วิ่งรอบสนามโรงเรียน จำนวน 5 รอบ สาเหตุคือน้องลืมอุปกรณ์แต่งกายวิชาลูกเสือไม่ครบ จนทำให้ลูกหายใจไม่ออก
ทางครูประจำชั้นได้โทรให้แม่เด็กมารับกลับบ้า นแต่อาการทรุดลง แม่จึงพาส่ง รพ.กบินทร์บุรี เพราะลูกมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว นั่นคือ เป็นโรคหอบ จนกระทั่งมาเสียชีวิตเมื่อกลางดึกของวันที่ 19 ก.ค. ที่ผ่านมา ตนอยากฝากทางโรงเรียน น่าจะสอบถามนักเรียนในโรงเรียนว่าเด็กแต่ละคนมีโรคประจำตัวอะไรบ้าง