เชื่อว่าเป็นคำถามที่อยู่ในใจของใครหลายคนอย่างแน่นอน เมื่อเวลาไปงานเลี้ยงที่เป็นแบบโต๊ะจีน เคยสงสัยหรือไม่ว่าทำไม เมนูข้าวผัด ถึงมาเสิร์ฟเป็นอาหารอย่างสุดท้าย แถมมาในตอนที่แขกก็กินจนอิ่มแล้ว แทนที่จะเสิร์ฟในตอนแรก ๆ เลย เพราะจะได้ทานข้าวพร้อมกับอย่างอื่นด้วย
อย่างไรก็ตาม สำหรับปัญหานี้ได้ถูกไขข้อสงสัยแล้ว หลังเฟซบุ๊กเจ้าของธุรกิจโต๊ะจีน ได้มีการโพสต์อธิบายถึงเหตุผลที่ต้องเอาข้าวผัดมาไว้หลังสุดว่า มีหลายคนถามมาบ่อยมากว่า ทำไมเสิร์ฟอาหารประเภทเนื้อก่อน แล้วปิดท้ายด้วยข้าว มันเกิดปัญหาทำให้กินข้าวไม่ได้ เพราะอิ่มจากเมนูก่อนหน้าไปแล้ว ซึ่งความจริงแล้วโต๊ะจีนนั้นมีลำดับการเสิร์ฟอาหารที่มีการคิดมาแล้วเป็นอย่างดี
ลำดับการเสิร์ฟอาหารของโต๊ะจีน จะอ้างอิงมาจากการรับประทานอาหารของชาวจีนที่นิยมรับประทานอาหารตามลำดับ ดังนี้
– กับแกล้มหรือออร์เดิร์ฟกินเล่นรอจานหลัก อาจจะเป็นจานเย็นหรือร้อนก็ได้
– ซุปน้ำข้น มีเนื้อสัตว์ ซึ่งถือว่าเป็นอาหารจานพิเศษ เช่น หูฉลาม เป๋าฮื้อ
– อาหารต่าง ๆ ที่มีรสอาหารหลากหลาย ซึ่งการเรียงลำดับอาหารที่ดี จะทำให้ผู้รับประทานไม่รู้สึกเลี่ยน จานหลักอาหารประเภทเนื้อสัตว์ หมู ไก่ เป็ด
– จานหลักอาหารประเภทปลา ที่ชาวจีนนิยมนำมากินในโต๊ะจีน เพราะปลาในภาษาจีนจะพ้องกับคำว่า หยู ที่แปลว่า ล้นเหลือ
– อาหารประเภทซุป ส่วนใหญ่จะวางหลังอาหารประเภทเนื้อสัตว์ เพื่อจะได้คล่องคอ
– ข้าว เสิร์ฟมาที่หลัง เนื่องจากคนจีนถนัดกินกับข้าวกับสุรามากกว่า ข้าวจึงมักจะสั่งมากินตอนท้าย แบบว่ากินข้าวก่อนจะกลับบ้าน
– ของหวานหรือผลไม้นั้น ถูกเพิ่มในโต๊ะจีน เพื่อให้ครบทั้งของคาวของหวาน
ทั้งนี้ หากเจ้าภาพนำอาหารที่แปลกและดีอย่างหูฉลาม เป๋าฮื้อ ปลิงทะเล หมูหัน เป็ดปักกิ่ง รังนกฯ เป็นของมีราคาแพงมาเสิร์ฟด้วย ยิ่งเป็นการให้เกียรติแขกรับเชิญ