เว็บไซต์ ctwan เปิดเผยว่ามีคนไข้เป็นชายชาวจีนรายหนึ่ง เข้ารับการรักษาด้วยอาการเบื่ออาหารและอ่อนเพลียอย่างรุนแรง แพทย์ตรวจเจอเลือดสีเขียวขุ่น เนื่องจากตับเสียหายอย่างหนัก เป็นผลจากการดื่มแอลกอฮอล์เป็นระยะเวลานาน หากมารักษาช้ากว่านี้อาจอันตรายถึงชีวิต
โดยคนไข้รายนี้ชื่อ แซ่เฉิน อาศัยอยู่ในเมืองเสิ่นเจิ้น ประเทศจีน ซึ่งอาการเด่นของโรคตับก็คือ ตาและผิวเหลือง นอกจากตาเหลือง คลื่นไส้ อาเจียนแล้ว นายเฉินยังมีอาการหายใจไม่ค่อยออกอีกด้วย แพทย์ให้ตรวจปัสสาวะ ผลตรวจระบุว่า นายเฉินมีระดับคีโตนเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้แพทย์สงสัยว่า อาจจะเป็นภาวะน้ำตาลในเลือดสูงร่วมกับเลือดเป็นกรด ซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉินที่พบได้ในผู้ป่วยเบาหวาน โดยจากการเช็กประวัติไม่พบประวัติป่วยเบาหวาน
โดยระหว่างการสกัดเลือด พบว่า เลือดของนายเฉินเป็นสีเขียวขุ่น แพทย์ได้อธิบายว่า เลือดสีเขียวขุ่นที่พบนั้นเกิดจากความเสียหายอย่างรุนแรงของตับ อันเป็นผลจากการดื่มแอลกอฮอล์เป็นระยะเวลานาน และภาวะไขมันในเลือดสูง ที่เกิดจากการกินและดื่มที่มากเกินไป ภายหลังแพทย์ได้วินิจฉัยจากการทำงานของตับเพิ่มเติม พบว่า ถุงน้ำดีของนายเฉินเกิดการอักเสบ ขณะที่ระดับคอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์ ก็อยู่ในระดับที่สูงกว่าปกติถึง 10 เท่า อย่างไรก็ตาม ด้วยผลวินิจทั้งหมดเหล่านี้เอง เป็นผลทำให้นายเฉินเกิดอาการป่วยหลายอย่าง
รวมทั้งตับอักเสบเฉียบพลัน โรคตับจากแอลกอฮอล์ ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงร่วมกับเลือดเป็นกรด และไขมันในเลือดสูง นอกจากนี้ ตามรายงานยังระบุว่า หากแพทย์ตรวจไม่พบโรคเบาหวานของนายเฉิน เขาอาจจะมีอาการหัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมอง และตับอ่อนอักเสบ ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต ซึ่งแพทย์ได้ทำการกรองพลาสมาในเลือดของนายเฉินถึง 2 ครั้ง ทำให้สามารถสกัดไขมันสีเหลืองออกมาได้ ทั้งนี้ ผลของการตรวจดังกล่าว นายเฉิน กล่าวว่า ต่อจากนี้เขาคงไม่กล้าที่จะกินหรือดื่มมากเกินไปอีกแล้ว โดยหลังจากการเข้ารับการรักษาเป็นเวลา 2 สัปดาห์ นายเฉินก็ออกจากโรงพยาบาลได้