7-11 (7-Eleven) เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าสนใจไม่น้อย เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตสูง อีกทั้งระบบการบริหารจัดการที่ดี ที่สำคัญเป็นหนึ่งในธุรกิจที่คนไทยสนใจอยากซื้อ จนติดอันดับคำค้นหาใน Google เป็นประจำทุกปีด้วยวันนี้เราจะพาไปดูกันว่าถ้าอยากเป็นเจ้าของ 7-Eleven ต้องใช้เงินเท่าไหร่
โดยข้อมูลจาก cpall ระบุว่า การลงทุนซื้อการร่วมธุรกิจร้าน 7-Eleven หรือ การเป็น Store Business Partner มีอยู่ด้วยกัน 2 รูปแบบ ดังนี้
รูปแบบที่ 1
ค่าใช้จ่ายในการเปิดร้าน 480,000 บาท
เงินค้ำประกันความเสียหาย 1,000,000 บาท
ระยะเวลาสัญญา 6 ปี
รวม 1,480,000 บาท
ผู้ซื้อแฟรนไชส์ หรือแฟรนไชส์ซีจะอยู่ในฐานะผู้จัดการร้าน ได้รับเงินเดือน 29,000 บาท มีหน้าที่บริหารยอดขายและค่าใช้จ่ายในร้านให้ได้ตามงบประมาณที่ซีพีออลล์จัดให้ ไม่ว่าจะเป็นค่าจ้างพนักงาน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ถ้าบริหารได้ตามเป้า ทางซีพีออลล์จะปันผลกำไรให้แบบขั้นบันได้ประมาณ 20-30% ในกรณีที่มียอดขายสูงกว่าเป้าที่บริษัทตั้งไว้
รูปแบบที่ 2
ค่าใช้จ่ายในการเปิดร้าน 1,730,000 บาท
เงินค้ำประกันความเสียหาย 900,000 บาท
ระยะเวลาสัญญา 10 ปี รวม 2,630,000 บาท
ผู้ซื้อแฟรนไชส์ หรือแฟรนไชส์ จะมีรายได้จากส่วนแบ่งกำไร 54% ส่วนซีพีออลล์ได้ 46%
สำหรับเงินค้ำประกันของทั้ง 2 รูปแบบ จะได้รับคืนเมื่อสิ้นสุดสัญญา โดยจะได้รับดอกเบี้ยคืนทุกปี ตามอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำของธนาคารกรุงเทพ ณ วันที่ 1 มกราคม ของทุกปี
ทั้งนี้ ทั้งรูปแบบการลงทุนเปิดร้าน 7-Eleven เมื่อสมัครเข้าไปแล้ว อาจจะได้รับการพิจารณาและติดกลับภายใน 4-5 ปี เนื่องจากคนสนใจซื้อแฟรนไชส์จำนวนมาก และต้องรอระยะเวลาแฟรนไชส์ซีคนเก่าหมดสัญญา