October 6, 2024

เซียนพระดัง กระทืบเมียสาหัส ขายบ้าน ขายรถ จนหมดตัว

เซียนพระดัง กระทืบเมียสาหัส ขายบ้าน ขายรถ จนหมดตัว

วันที่ 2 ก.ย. 2567 ที่สำนักงานเพจสายไหมต้องรอด ซอยสายไหม 38 น.ส.เกตุสิริ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี (ผู้เสียหาย) เข้าขอความช่วยเหลือจากนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกสามีที่เป็นเซียนพระชื่อดังย่านฝั่งธนบุรี ทำร้ายร่างกายบาดเจ็บปางตาย เหตุเครียดจัดเพราะเสียพนันออนไลน์ (สลอต) เสียเงินเกือบ 2 ล้านบาท ขายบ้าน ขายรถ

น.ส.เกตุสิริ เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนมีปากเสียงกับสามี เนื่องจากติดเล่นพนันออนไลน์หนัก ทำให้เสียเงินไปจำนวนมาก ตนและสามีมีลูกด้วยกัน 2 คน โดยลูกคนเล็กเป็นเด็กออทิสติก โดยตนต้องทำงานหาเงินเพียงคนเดียว จึงทนไม่ไหว จึงตัดสินใจกลับบ้านไปอยู่กับแม่

เมื่อตนเข้าไปเก็บเสื้อผ้า ฝ่ายสามีไม่ยอมให้ตนออกจากห้อง และทำร้ายร่างกาย ชกต่อยที่หน้า และบีบคอจนตนล้มลง ตนยกมือไหว้ขอให้พอ แต่ถูกกระทืบซ้ำ และนำกะทะมาตีอีกหลายครั้ง พร้อมข่มขู่ไม่ยอมตนกลับบ้าน หลังจากถูกทำร้ายร่างกายแล้ว ตนจึงขอร้องให้สามีพาไปโรงพยาบาล เนื่องจากรู้สึกเจ็บซี่โครง แต่ทางสามีไม่ยอมพาไป

ตนจึงแกล้งนอนหลับ และเมื่อสามีหลับแล้ว จึงวิ่งหลบหนีออกมาไปที่นิติฯของที่พัก และขอใช้โทรศัพท์โทรหาแม่ ให้พาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ตนนอนรักษาตัว 2 วัน แต่ขอนอนเพียงวันเดียว เนื่องจากกลัวจะไม่ความปลอดภัย ต่อมาพี่ชายของตนได้ไปแจ้งความที่ สน.บางขุนเทียน แต่ทางตำรวจบอกกับพี่ชายตนว่าแจ้งข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวไม่ได้ เนื่องจากเป็นสามีภรรยากัน แต่ในส่วนของข้อหาทำร้ายร่างกายสามารถแจ้งได้ อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าต้องรอเรียกทุกฝ่ายเข้ามาสอบปากคำในวันนี้( 2 ก.ย. ) อีกครั้ง

น.ส.เกตุสิริ กล่าวอีกว่า ตนคบหากับสามีมา 12 ปี ที่ผ่านมาเป็นคนดี ทำอาชีพเป็นเซียนพระหาเงินเข้าบ้านเสมอ แต่หลังจากติดการพนันสามีก็ไม่ทำงาน ไม่หาเงินและเริ่มมีพฤติกรรมโมโหรุนแรงทำร้ายร่างกายตน ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อเดือนที่แล้ว สามีก็เคยทำร้ายร่างกาย โดยชกต่อยเข้าที่ตา ซึ่งตนไม่คาดคิดว่าสามีจะเป็นถึงขนาดนี้

ตนตักเตือนมาตลอดว่าการพนันไม่ดี แต่สามีกลับไม่เลิก ซึ่งเมื่อเดือนที่แล้ว ตนเช็กโทรศัพท์ของสามีทราบว่า สามีได้เสียการพนันออนไลน์ไป 1.6 ล้านบาท ได้ขายบ้าน ขายรถยนต์ขายรถมอเตอร์ไซค์ และขายโทรศัพท์มือถือ และเคยขอยืมเงินกับแม่ของตน และไม่ใช้คืน ยืนยันว่าหากมีการมาขอโทษคืนดี จะไม่กลับไปคืนดีแน่นอน

นายเอกภพ กล่าวว่า เนื่องจากเกิดเหตุในพื้นที่ สน.บางขุนเทียน และได้มีการแจ้งความไว้แล้ว หลังจากนี้ตนจะประสาน พ.ต.อ.กฤติเดช จันทร์เพชร ผกก. สน.บางขุนเทียน เพื่อให้เร่งสอบสวน เพราะผู้ก่อเหตุเองยังคงตามและพยายามติดต่อทางผู้เสียหายทำให้ผู้เสียหายหวาดกลัว ตนก็อยากให้ทางฝ่ายชายหยุดการกระทำดังกล่าว และอยากให้เห็นแก่ลูก ให้นึกถึงครอบครัวด้วย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *