กลับบ้านกันนะ ครอบครัวร่ำไห้ ทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ 23 ศพ เหตุรถบัสไฟไหม้กลับภูมิลำเนา ท่ามกลางความโศกเศร้า
วันที่ 2 ต.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมามีประชาชนที่ทราบข่าวอุบัติเหตุรถบัสนักเรียนไฟไหม้ ได้ทยอยเดินทางเข้ามาวางดอกไม้ พร้อมทั้งนำขนม และน้ำดื่ม มาวางไว้บนรั้วอนุสรณ์สถานริมถนนวิภาวดี(ขาเข้า) เพื่อเป็นการร่วมไว้อาลัยให้กับเด็กนักเรียน และครูที่โดยสารมากับรถบัสมรณะคันเกิดเหตุ
โดยบางรายได้ร้องไห้ เพราะรู้สึกสงสารเด็กๆที่ตัองมาประสบอุบัติเหตุร้ายแรงอย่างนี้ รวมถึงแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้สูญเสียทุกรายด้วย ส่วนลานจอดรถด้านในอนุสรณ์สถาน ซึ่งเป็นจุดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำรถบัสคันที่เกิดเหตุไปเก็บไว้เพื่อรอการตรวจสอบนั้น ในช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานและเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก ได้นำรถเครนขนาดใหญ่ มาดำเนินการยกช่วงหน้าของรถบัสคันเกิดเหตุขึ้น เพื่อตรวจสอบและเก็บหลักฐานต่างๆ โดยห้ามสื่อมวลชนเข้าไปในพื้นที่
กระทั่งเวลา 13.30 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรกลางได้ปิดถนนวิภาวดี(ขาเข้า)ในช่องทางด่วนตั้งแต่ช่วงต่อม่อ ที่803 (เยื้องห้างเซียร์ รังสิต) จนถึงต่อม่อที่ 792 ซึ่งเป็นจุดที่รถเกิดเหตุไฟไหม้หน้าอนุสรน์สถาน เพื่อให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบ โดยพบว่าที่ขอบแท่งแบริเออร์มีรอยครูดของยางรถยยนต์ติดอยู่เป็นระยะทางกว่า 500 เมตร
และเวลา 16.20 น. ขบวนรถมูลนิธิร่วมกตัญญูเคลื่อนร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 23 ศพจากเหตุเพลิงไหม้รถบัสนักเรียนมาทำพิธีเชิญดวงวิญญาณบริเวณจุดเกิดเหตุ ถนนวิภาวดีขาเข้า ตอม่อที่ 792-793 โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี มาอำนวยความสะดวกด้วยการปิดการจราจรฝั่งขาเข้าช่องทางด่วน
การทำพิธีทางครอบครัวผู้เสียชีวิตได้มีการเชิญพระสงฆ์จำนวน 4 รูป จากวัดโพสพผลเจริญ มาทำพิธีเชิญดวงวิญญาณพร้อมกับบรรดาญาติของผู้เสียชีวิตทั้งหมด ซึ่งการทำพิธีจะแบ่งออกเป็นชุดตามขบวนที่เคลื่อนมาถึงจุดเกิดเหตุ เพื่อไม่ให้การจราจรติดขัด
โดยทันทีที่ขบวนมาถึงชุดแรกจำนวน 5 ร่าง ทางครอบครัวและญาติได้จุดธูปเพื่ออัญเชิญดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิต และนำรายชื่อนามสกุลเขียนใส่กระดาษ โดยทางญาติของผู้เสียชีวิตต่างอยู่ในอาการโศกเศร้าร้องไห้เสียใจอยู่ตลอดเวลา และได้พูดเชิญดวงวิญญาณของลูกหลานให้ตามกลับไปยังภูมิลำเนาบ้านเกิด ใช้เวลาในการทำพิธีประมาณ 15 นาที
ทั้งนี้ระหว่างการทำพิธี เจ้าหน้าที่กู้ภัยจะต้องดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากญาติบางรายมีลักษณะอาการเหมือนจะเป็นลม ไม่สามารถเดินด้วยตัวเองได้ หลังจากเสร็จสิ้นพิธีในชุดแรกก็ได้มีการเคลื่อนขบวน เพื่อส่งศพกลับไปยังภูมิลำเนาต่อไป