เป็นคนดังที่รู้จักกันทั้งเมือง เพราะชอบช่วยเหลือคนเดือดร้อน แต่ก็โดนดรามาว่าหิวแสงเหมือนกัน วันนี้ “กัน จอมพลัง”ขอเคลียร์หลังคนมองช่วยคนเพราะหิวแสง หรือทำตัวเป็นมาเฟียในวงการ พร้อมเปิดตัวภรรยาคนสวย “หมิว ลลิตา” ดีกรีนางงามหลายเวที เป็นครั้งแรก อีกทั้งเหตุผลอะไรที่ทำให้ทั้งคู่แยกกันอยู่ ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 ที่มีเบนซ์ พรชิตา และชมพู่ ก่อนบ่าย เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
ส่วนใหญ่รู้จัก กัน จอมพลัง จากข่าวช่วยเหลือคนอื่น แต่ล่าสุดเป็นมีมในโซเชียล กับคำว่า อย่าห้าวนะน้อง ถ้าไม่อยากกินข้าวผ่านธูป?
กัน : มันเริ่มจากรายการ มีอยู่ภาพหนึ่งที่คนขึ้นไปต่อย น้าเอ๊ะ จิรากร เขาพนมมือ แต่แทนที่จะพนมมือธรรมดา มีรูปปืนอยู่ในมือด้วย ก็เลยต้องบอกว่าต้องเปลี่ยนจากปืนเป็นธูป ถ้ามันห้าวอย่างนี้ ผมก็เลยคิดเอาจากที่พี่หนุ่มพูด ผมเลยบอกว่าถ้าคนห้าวส่วนใหญ่ต้องกินข้าวผ่านธูป เพราะคนเก่งอายุไม่ค่อยยืน
แล้วเป็นไงกระแสแน่นไหม?
กัน : กระแสดีมาก ก็จะมีน้องๆ โพสต์ กัน จอมพลัง ของจริงหรือเปล่า มาหาหน่อยที่คลอง 3 ยินดีต้อนรับ ผมก็ไปคอมเมนต์จะต้อนรับยังไง อยากให้ต้อนรับ แป๊บหนึ่งแกก็ลบโพสต์ไปแล้ว ก็อยากจะฝากบอกน้องๆ ว่าอย่าห้าว คนส่วนใหญ่ห้าวมักจะกินข้าวผ่านธูป เตือนสติหน่อย
คู่กรณีที่เขาโพสต์ พอมีกระแสออกไป มีผลลัพธ์ยังไงบ้าง?
กัน : ตอนนี้เห็นคนหนึ่งมานั่งร้องไห้อยู่ในรายการหนึ่ง ไม่เหมือนวันที่ขึ้นไปซัดน้าเอ๊ะเลย ผมคิดว่าตอนนี้หลายคนน่าจะได้รับบทเรียนแล้ว เพราะทางเจ้าของร้านและตัวพี่เอ๊ะ จิรากร เองแจ้งความดำเนินคดี เอาเรื่องให้ถึงที่สุด โดนน้อยสุด 2 คดี บางคนมากสุดถึง 6 คดี คือพี่เอ๊ะเขาขายความบันเทิง ขายเสียงหัวเราะ แต่ไม่ได้ขายร่างกายให้จะขึ้นไปทำอะไรก็ได้ นี่เป็นบทเรียนนะครับ หลายๆ ท่านที่จะขึ้นเวทีต้องดูไว้
เห็นบอกว่าตอนที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือมีเบื้องลึก เบื้องหลังโทรศัพท์มาบอกว่าลบคลิปออกด้วย?
กัน : ประเด็นนี้ในส่วนของพี่เอ๊ะก็เล่าให้ฟังว่ามีคนนั้นคนนี้โทร.มา ผมก็ไปที่โรงพักถามท่านผู้กำกับเลย ทางป้าเขาบอกว่ารู้จักกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีคนโทร.มาขอให้ลบคลิปแบบนี้ใครครับ ซึ่งท่านผู้กำกับยืนยันว่าไม่มี แต่ไม่รู้นะ แต่ตอนนี้ท่านยืนยันมาว่าถึงมีใครก็แทรกแซงไม่ได้ แต่อยากจะฝากบอกอีกครั้ง ใครที่คิดจะช่วยเรื่องนี้ ท่านคิดให้ดีๆ อย่าทำให้ผิดเป็นถูก แต่ถ้าท่านคิดอยากจะทำก็เรียนเชิญครับ ออกมาได้เลย
คดีคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว?
กัน : ตอนนี้ทางผู้กำกับเร่งตามตัวผู้ก่อเหตุมา ก็ออกหมายเรียก ก็จะเอาให้เร็วที่สุด เพราะคดีนี้จะเอาไว้เป็นบรรทัดฐานของศิลปินหลายคน
ในฐานะที่เป็นภรรยานั่งข้างๆ เวลาคนโทร.มาขู่ผวาบ้างไหม?
หมิว : ในใจมีกลัวบ้าง แต่ลึกๆ แล้วเป็นห่วงเขามากกว่า เพราะว่าที่เขาทำค่อนข้างเสี่ยง แต่ก็รู้ว่ามันคือความสุขของเขาในการช่วยเหลือคน แล้วเรารู้สึกว่าหน้าที่ของเราเป็นเหมือนทีมซัปพอร์ตเขามากกว่า อยากเป็นกำลังใจให้เขา แล้วเราก็ภูมิใจในสิ่งที่เขาทำ ถ้าตัวเราทำเอง เราอาจจะไม่ได้รับโอกาสได้เท่าเขา ก็เลยให้เขาเป็นตัวแทนเราดีกว่าในการที่ไปช่วยคน เพราะเรายินดีที่เขาช่วยเหลือประชาชนแบบนี้ แล้วก็ภูมิใจในตัวเขา
ก่อนหน้านั้นเคสของคุณเอที่ข่าวออกมาว่าเป็นทหารรับใช้แล้วถูกทำร้ายร่างกาย แล้วคุณกันเข้าไปช่วยเหลือ แล้วหลังจากนั้นเป็นยังไง?
กัน : โอ้โห..เคสนี้สุดยอดแห่งความวุ่นวาย เขาเรียกว่าเด็ดดอกไม้สะเทือนดวงดาว จากเรื่องเดียวคือมันพัวพันไปทุกหน่วยงาน แม้กระทั่งตำรวจถูกหรือเปล่า พัวพันกับผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง แต่ความที่มันเกิดเรื่องขนาดนี้แล้ว มันมีบางคนที่ยังเห็นผิดเป็นถูก มีโทร.มาหาว่าอยากจะเอาเท่าไหร่ คิดไว้หรือยัง เตรียมตัวเลขเอาไว้เลย ทางคนที่ก่อเหตุก็มีการบอกผ่านน้องเอว่า ถ้าเอไม่หยุด เอจะเจออะไรบ้าง เอจะต้องรู้นะ เอหยุดเดี๋ยวนี้ ผมถามว่าสมมติมันมีเรื่องแผลมันเต็มหน้าขนาดนั้นแล้ว โดนทั้งน้ำยาล้างห้องน้ำบีบใส่ปาก โดนตีหู โดนทำร้ายจนบอบช้ำขนาดนั้น แล้วคุณรู้จักผู้หลัก ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองด้วย แทนที่เราจะสำนึกผิด แทนที่จะปกป้องผู้หลัก ผู้ใหญ่เขาไม่ให้เดือดร้อน กลับพูดจาแบบนี้อีก เรื่องราวมันเลยลุกลามใหญ่โตไป แต่ตอนนี้ทุกคนที่ก่อเหตุก็ยังอยู่ในเรือนจำ
ตอนที่มีคนโทร.มาถามว่าจะเอาเท่าไหร่ พี่ตอบเขาไปว่ายังไง?
กัน : ผมไม่เคยคิดว่าผมจะเรียกเงินเท่าไหร่ ผมคิดแค่ว่าคนที่ขอผมจะติดคุกกี่ปี มันมีหลายอย่าง มีการโทร.มาบอกว่าอย่าเรียกว่าทหารรับใช้ได้ไหม ให้เกียรติคนที่เขาทำงานพวกนี้หน่อย ผมถามว่าตอนที่ท่านทำเขา ท่านให้เกียรติเขาไหม
ฝั่งคุณกันก็โดนโทร.ขู่ ฝั่งคุณหมิวเองก็โดนแช่งในคอมเมนต์ด้วย?
หมิว : ใช่ค่ะ คือตอนนั้นเราท้องประมาณ 4-5 เดือน ตอนช่วงที่เขามีดรามา บางคนจะบอกว่าเราไม่สมควรเป็นพ่อ เป็นแม่คน บอกว่าเราไม่มีคุณธรรมบ้างแหละ แล้วบอกว่าท้องเนี่ยขอให้แท้งๆ ไปเลย ขอให้ลูกมึงไม่ได้เกิด เป็นคอมเมนต์ลบๆ ตอนนั้นเรามาปรึกษาเขา แล้วเขาบอกไม่ต้องสนใจหรอก ไม่ต้องคิดมาก เดี๋ยวพวกนี้มันมาเดี๋ยวมันก็ไป พยายามโฟกัสกับลูก เพราะว่าเราท้อง เราก็ไม่อยากให้อารมณ์เราไปกระทบถึงลูกในท้อง
กัน : พวกนี้คนส่วนใหญ่เวลาออกมาแอ็กชั่นแบบนี้ เวลาเราออกไปช่วยคน คนที่เขาได้รับประโยชน์ได้รับความช่วยเหลือ เขาก็จะชื่นชม ขอบคุณเรา แต่มันก็จะมีคนอีกประเภทหนึ่งที่เขาเสียผลประโยชน์จากการที่เราไปช่วย เขาก็ต้องไม่พอใจ ไม่ถูกใจ อันนี้เป็นเรื่องปกติ แต่เราอยู่ในฝั่งถูกต้องเป็นหลัก
คอมเมนต์เราได้อ่านแล้วเราได้ตอบกลับไหม หรือเราอ่านแล้วผ่านไปเลย?
หมิว : ก็มีโต้ตอบบ้าง แต่เขาบอกกับเราว่าไม่ต้องหรอก เพราะว่าเถียงไปก็เท่านั้น เพราะถ้าคนไม่ชอบเรายังไงเขาก็มีเหตุผลมาแย้งเราอยู่แล้ว เหมือนเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา พูดไปก็ไม่มีประโยชน์ไม่พูดดีกว่า อยู่เงียบๆ ดีกว่า แต่ตอนแรกที่เราไม่เงียบ คือเราไม่ใช่คนดัง เราเป็นคนธรรมดา แล้วพอมาเจอเรื่องแบบนี้เราก็ยอมรับไม่ค่อยได้เท่าไหร่ ไม่ค่อยมีภูมิคุ้มกันกับด้านนี้เท่าไหร่ พอมาเจอแบบนี้มันค่อนข้างกระทบความรู้สึกเรานิดนึง
พอเราช่วยเหลือคน มันก็มีหลายกระแส ดีก็ดีไป แต่บางคนบอกว่าช่วยเพราะหิวแสงหรือเปล่า?
กัน : ผมช่วยคนมาเยอะมาก อย่างปีที่แล้วผมช่วยคนมา 400 เคส เคสที่ออกข่าวก็มี เคสที่ไม่ออกข่าวผมช่วยหลังบ้านก็เยอะมาก ผมช่วยผมช่วยจริงๆ ในกลุ่มผมมีกลุ่มนักข่าวที่ตามอยู่ทุกวันนี้ เกือบ 260 คน ไม่ต้องหิวแสงนะครับ ทุกวันนี้ล้นจนไม่รู้จะทำอะไรแล้ว แล้วช่วยคนแบบอยู่เบื้องหลังเยอะมาก ไม่ได้มองถึงแสง
คุณช่วย คุณได้อะไรก่อน?
กัน : ได้ความภาคภูมิใจ ได้ลบปมนึงตอนเด็ก สมัยก่อนตอนที่ผมไม่ได้มีพี่น้อง ไม่ได้มีเงินทอง ไม่ได้มีคนรู้จักขนาดนี้ ผมเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวร้านหนึ่ง มีลูกน้องโกงเงิน ด้วยความใจดี อ่อนประสบการณ์ บอกลูกน้องเอาเงินมาคืนนะพี่ให้โอกาส ตอนนั้นคือโกงไปทั้งหมด 2 ล้านนะ โกงทั้งร้าน ทุกคนร่วมกัน คนหนึ่ง 5-6 หมื่น แสนก็มี ก็เลยใจดีบอกว่าเอาเงินมาคืนแล้วกัน แต่วันที่นัดให้เอาเงินมาคืน เอาระเบิดมาปา 3 ครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาด้วย แต่ทำอะไรไม่ได้ แล้ววันนั้นที่หยุดคือคนที่ปาถูกรถชน พอผมไปที่โรงพักเพื่อที่จะดำเนินคดี รู้ไหมสิ่งที่มันตลกคืออะไร คือทำอะไรไม่ได้ แจ้งนักข่าวก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะนามสกุลเขาใหญ่มาก คนนึง 1 ใน 30 นามสกุลดังมาก ไม่มีใครกล้าเลย เพราะนามสกุลดัง แล้วเรื่องที่มันตลกกว่านั้นคือผมถูกแจ้งความด้วยนะ ผมถูกปาระเบิด ถูกขโมยเงิน แต่ถูกแจ้งความ เพราะฝั่งโน้นนามสกุลดัง เขากำชับมาที่ตำรวจว่าผมลงที่เขามาปาระเบิด สุดท้ายผมไปขึ้นศาลผมชนะนะครับ ศาลยกฟ้องที่เขาฟ้อง แต่ถามว่าผมได้อะไร ไม่ได้ เสียทั้งเงินประกันตัว เสียเวลา เสียทุกอย่าง ผมบอกเลยความยุติธรรมมันเกิดกับนามสกุลดัง ผมคิดว่าถ้าวันใดวันหนึ่ง ถ้าผมมีแบบนี้บ้าง มีพี่ มีน้อง มีเงิน มีทอง ผมจะเอาสิ่งที่มีไปอยู่ข้างคนที่เขาไม่มีให้มีโอกาสสู้ได้อย่างเท่าเทียม แค่นี้เลย
ทีนี้พอทำก็มีบอดี้การ์ดล้อมหน้า ล้อมหลังเลย เป็นมาเฟียหรือเปล่า?
กัน : คนชอบบอกว่าเป็นมาเฟีย เป็นผู้มีอิทธิพล ผมถามว่ามาเฟียความหมายของแต่ละคนคืออะไร ในความหมายผมนะ มันต้องรีดเงินเขา มันต้องไถเงินเขา มันต้องเอาเปรียบเขา ทำนาบนหลังคนใช้ชีวิตสุขสบาย แต่ผมไม่ได้เป็นอย่างนั้น ผมไม่เคยไปไถเงินใคร มีแต่เสียเงินไปช่วยคน ออกไปช่วยคนทุกเคสที่ผมช่วย ช่วยฟรีนะครับ ไม่เคยเรียกเงิน ผมถามว่าสิ่งที่ต้องมีคนอยู่รอบตัวผมเพราะอะไร เวลาไปยืนข้างคนอื่นที่เราไม่เกี่ยวด้วยเลย แล้วทะเลาะกับผู้มีอิทธิพลความปลอดภัยมันสำคัญนะครับ ถ้าผมไปตัวคนเดียวแล้วผมไปสู้ เคสเดียวเอาภาษาชาวบ้านผมต้องตายอย่างนี้ ลูก เมีย ผมอยู่ยังไง อย่างน้อยต้องเอาความปลอดภัยให้ลูกเมีย อุ่นใจก่อน ก็เลยต้องมีส่วนนี้ แต่บอกทุกคนให้เข้าใจ ไม่ใช่มาเฟียนะครับ ช่วยมาฟรีอย่างเดียวครับผม
เวลามาต้องมีประกบกี่คน?
กัน : ประมาณ 2-4 คน บางงานถ้าไปที่โหดจริงๆ ก็อาจจะมีถึง 8 คน บางที่เราไปในถิ่นของเขา แล้วเขามีอิทธิพลมากๆ เราต้องเอาชีวิต อยู่ดีๆ เราเจอคนที่เป็นผู้มีอิทธิพลใหญ่ แล้วบอกว่าน้องๆ น้องไปเองเถอะ พี่ไม่ไป อย่างนั้นถือว่าเราลบอุดมการณ์ที่เราตั้งใจไว้เลย ช่วยต้องช่วยให้สุด
เวลาไปไหนมีคนล้อมหน้า ล้อมหลัง เรารู้สึกกลัวบ้างไหม?
หมิว : แรกๆ มีกลัวบ้าง ในสิ่งที่้เขาทำมันก็เสี่ยง แต่หลังๆ เริ่มชินแล้ว ตัวหนูไม่ค่อยห่วงเท่าไหร่ แต่ห่วงเขามากกว่า เพราะเขาลงพื้นที่จริง เป็นห่วงชีวิตเขาพยายามย้ำเขาตลอดให้ซีเรียสเรื่องความปลอดภัยมากๆ แล้วอะไรที่มันเสี่ยงมากๆ ก็อยากให้เขาระวังตัวเองมากขึ้นหน่อย เพราะว่าทุกวันนี้เหมือนกับว่าเราทำงานอยู่เบื้องหน้า แต่เขาอยู่เบื้องหลัง แล้วเขาจะทำอะไรกับเราก็ได้ บางทีเขาอยู่ในมุมมืด แต่เราอยู่ในมุมสว่าง เราเองที่อาจจะเสี่ยงมากกว่า ก็เลยกลัวตรงนี้
เส้นทางความรักของคู่นี้ รักกันมากว่า 3 ปีแล้ว จุดเริ่มต้นเป็นยังไงมายังไง?
กัน : เริ่มต้นจากเฟซบุ๊ก เรากดว้าว แต่เขากดหัวใจกลับมา พอเขากดหัวใจเราคิดว่าต้องมีใจกันบ้างแล้วแหละ อีกวันหนึ่งเขาไปประกวดที่หนึ่งก็เลยพิมพ์ไปให้กำลังใจเขา
รู้จักกันมาก่อนไหม?
กัน : ไม่รู้จักครับ แต่ผมแค่ไปให้กำลังใจนะ แต่เขาโทร.กลับมาหาผมนะ
ทำไมถึงกดหัวใจไปให้ผู้ชายคนนี้?
หมิว : เขาเป็นผู้ชายคนเดียวที่กดว้าวให้เรา นอกนั้นจะเป็นพวกกะเทยหรือสาวสอง เพราะเราเป็นนางงามคนที่ตามเราส่วนใหญ่จะเป็นพี่ๆ กะเทย แล้วปกติคนที่กดว้าวน้อยมาก เรารู้สึกว่าเขาอยากแสดงตัวหรือเปล่าว่าฉันอยู่ตรงนี้นะ เหมือนตอนนั้นที่เรากดหัวใจ ถามว่าเราสนใจเขาไหม เราก็สนใจเขา อันนี้ก่อนทางรายการก็ยังตกลงกันอยู่ว่าสรุปเราจะบอกเขาว่าไงว่าใครจีบใครก่อน
ชื่อกัน จอมพลัง นี่คุณหมิวรู้จักมาก่อนไหม?
หมิว : ตอนที่เขามาแอดเฟซเรา เราก็เข้าไปส่องก็เลยรู้ว่าเขาขายบะหมี่ แต่ตอนนั้นเห็นว่าเขาลงรูปคู่กับแฟนเขาเหมือนกัน คือเหมือนเราจะรับเพื่อน ก็เลยเข้าไปส่องว่าเขาเป็นใคร ก็เลยเห็นว่าชีวิตเขาคบใคร เราก็เห็นมาตลอด คนนี้เวลาเขาจะรักใคร เลิกใคร เขาจะโพสต์ตลอด เข้าไปเราก็จะรู้ว่าเขาอยู่ในสถานะอะไร โสด โน่นนี่นั่น
แล้วที่โทร.ไปล่ะ?
หมิว : เราเป็นฟีลแบบว่าสายอ่อยไม่คุยให้เสียเวลา ตอนนั้นประกวดเสร็จมันดึกแล้ว เราก็เหนื่อยทั้งวันแล้วรวบรัดตัดตอนเลยแล้วกัน จะคุยก็คุยต่อ เหมือนโทร.ผิดไปเลย แล้วเหมือนวางสาย เหมือนหย่อนเบ็ดก่อนว่าเขาคิดยังไง เรากลัวเราหน้าแตก
แล้วไปมีเบอร์กันและกันได้ยังไง?
หมิว : โทร.เฟซค่ะ โทร.เสร็จแล้วกดวาง แต่ด้วยความติ๊งต๊องของเรา เฟซเขาชื่อ กัน จอมพลัง แต่พอเขาโทร.มามันขึ้นกันอย่างเดียว เราไม่ทันสังเกตก็เลยถามว่า นี่ใครค่ะ เขาบอกว่ากัน เลยถามเขาว่ากันไหน ก็เมื่อกี้น้องโทร.ผิดหาพี่ ก็เลยโอเคได้คุยกันตั้งแต่วันนั้น
คุยกันนานไหมกว่าจะเป็นแฟนกัน?
กัน : วันเดียวครับ เขาโทร.มาแล้วกลัวเขาจะเสียของก็เลยชวนกินข้าว พอกินข้าวก็เตรียมดอกไม้ไปให้ ก็ลองคุยดูมันไปกันได้ ก็เลยขอเป็นแฟนเลย
คุณหมิวบอกว่าได้แฟนคนนี้มา เหมือนได้แฟนพระราชทานคืออะไร?
หมิว : เราชอบแซวเขาว่าเขาเป็นสามีพระราชทาน เรื่องของเรื่องคือตอนนั้นในเฟซมันดังมากเรื่องการขอแฟน เราก็เลยไปขอแฟนหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ ไปขอที่พระตรีฯ ก็ลิสต์ไปเลยว่าอยากได้แบบนี้ๆ แล้วทีนี้เผอิญว่าเรามาคบกับเขาพอดี แล้วมันก็ได้ตรงตามที่เราลิสต์ไว้
แล้วเขาสเปกเราไหม?
กัน : สเปกครับ จริงๆ เคยคบกับคนที่ใช้เวลาศึกษามานานๆ ลองเอาข้อจำกัดเราออกแล้วลองศึกษาเขาดู รู้สึกว่าใช่เลยก็เลยไม่ต้องเสียเวลาลองคุยกันเลยดีกว่า
นี่ก็ไม่เสียเวลานะ มีเบบี๋เลย?
กัน : ใช่ มารู้ว่ามีหมี่เกี๊ยวเป็นวันเกิดผม หมิวเขาก็ไปตรวจ พบว่ามี 2 ขีด วันนั้นที่ผมรู้ก็ตกใจเหมือนกันนะ แต่สิ่งแรกที่ทำคือโทร.สั่งแหวนก่อน เพราะว่าถ้าเขามีแบบนี้แล้ว สิ่งแรกที่ต้องทำความเป็นลูกผู้ชายคือความรับผิดชอบ ก็เลยขอเขาแต่งงานในวันเกิดเลย
กันแต่งงานคุณหมิวก็ท้องอยู่ กี่เดือน?
หมิว : 5 เดือนค่ะ
เห็นน้องหมี่เกี๊ยวน่ารัก น่าชังแบบนี้เห็นว่าเคยผ่านช่วงป่วยหนักมา?
กัน : ตอนเขาหนึ่งเดือน มันคือจุดเปลี่ยนของผมเลยนะ ตอนนั้นผมตัดสินใจเลิกช่วยคน ตอนนั้นผมก็โทษตัวเองคิดว่าผมไม่มีเวลาดูลูก ตอนนั้นหมี่เกี๊ยวเป็น RHV เป็นหนักมาก ชีวิตเป็นตายนี่ 50/50 ก่อนจะมาถึงตรงนี้เขาอยู่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ที่โน่นโรงพยาบาลมันเต็ม ต้องการย้ายเขามากรุงเทพฯ แต่โทร.ไป 20 ที่เหมือนเรื่องตลก บางที่ให้เหตุผลว่ามันเต็ม เขาให้เหตุผลว่าไม่รับส่วนนี้ บางที่รับปากแล้วว่าจะรับ แต่พอเช็กว่าเป็นลูกกัน จอมพลัง ไม่รับ ผมรู้สึกเสียใจมากเลยวันนั้น ผมเดินทางไปทั่วประเทศเพื่อช่วยคน แต่เวลาที่เราต้องการความช่วยเหลือเขาไม่อยากช่วย เพราะกลัวลูกเราไปตายที่โรงพยาบาลเขา
แล้วสรุปตอนนั้นยังไง ขั้นตอนการรักษา?
กัน : ตอนนั้น 8 ชม.ไปอยู่โรงพยาบาลรัฐ บางคนเขาไม่รู้จักเรา ผมถามว่าลูกจะหายไหม เขาบอกก็ดูสิจะหายไหม คำพูดมันยิ่งบั่นทอน
มันหนักถึงขนาดเขาพูดแบบนั้นเลยเหรอ?
กัน : ตอนนั้นหมี่เกี๊ยวจะช็อก ไม่ไหวแล้ว หายใจ ตัวยุบ ตอนนั้นเขาแค่เอากล่องมาครอบ แต่พอผมประสานไปยัง ผอ.โรงพยาบาลได้ เชื่อไหมมันเปลี่ยนไปหมดเลย ลูกผมมีสาย มีโน่น มีนี่เข้ามาดูแล ผมยังคิดว่าเป็นลูกของชาวบ้านจะรอดไหม ต้องขอบคุณ FC ขอบคุณพี่น้องประชาชนหลายๆ ท่าน รถพยาบาลเดินทางมาจากกรุงเทพไปรับ แล้วทุกคนเห็นรถพยาบาลหลบให้หมดเลย ต้องขอบคุณจริงๆ หมี่เกี๊ยวรอดได้เพราะทุกคนช่วย พอเข้ามารักษาที่กรุงเทพฯ ใช้เวลาประมาณ 10 วันหมี่เกี๊ยวก็เริ่มดีขึ้นตามอาการ แต่ถ้าเรามาช้ากว่านั้นก็อาจจะแย่ ผมบอกเลยตอนนั้นถ้าลูกผมเป็นอะไรไป หมี่เกี๊ยวไม่ได้ไปต่อ ผมจะเลิกช่วยคน เหมือนบุญที่ผมทำมามันไม่ได้ช่วยซัปพอร์ตลูกผม
เห็นรักกันแบบนี้เคยทะเลาะกันหนักถึงกับแยกกันอยู่ จะเลิกกันเลยเหรอ?
กัน : เคยครับ เคยทะเลาะกันหนัก ชีวิตคู่ ทุกคนเคยทะเลาะกัน แต่ด้วยความที่เราใช้ชีวิตแบบสมูทมาตลอด ไม่เคยทะเลาะกัน แต่พอทะเลาะกันทีมันหนักมาก ตอนนั้นก็เลยแยกกันอยู่ อยากให้ต่างคนต่างใช้เวลาของตัวเอง
ทะเลาะเรื่องอะไร?
กัน : จำไม่ได้ แต่น่าจะเป็นการใช้คำพูดที่มันแรงๆ น่าจะเป็นคุณพ่อครับ คุณแม่ จะคุยกันสุภาพมาก แต่วันนั้นอาจจะมีการใช้อารมณ์ในคำพูด ต่างคนต่างใช้อารมณ์สวนกัน นี่เป็นบทเรียนกับชีวิตคู่หลายๆ คนเลยนะ ถ้าใช้อารมณ์ทุกอย่างพังหมด ก็เลยแยกกันอยู่
ตอนนั้นท้องอยู่หรือคลอดแล้ว?
กัน : ท้องอยู่ครับ
ตอนนั้นตัดสินใจยังไง เห็นบอกว่ากลับไปอยู่ที่ต่างจังหวัดเลย?
หมิว : เหมือนตอนนั้นเราโกรธเขามาก แล้วบล็อกเขาทุกทาง คิดจะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวเลย ปกติเวลาทะเลาะกันทุกครั้งหมิวจะเป็นคนง้อ แต่เหมือนครั้งล่าสุดด้วยความที่ใจเราก็ไม่ไหวด้วย เราก็แย่ เราไปพักรักษาใจตัวเองก่อนดีกว่า ปกติเขาไม่เคยง้อเนาะ เราก็คิดว่ามันคงอาจจะไม่ได้ไปกันต่อ เราเลยคิดว่าเราบล็อกเขาทุกทางแล้วเราก็ตัดใจเลยดีกว่า กลับไปอยู่บ้านที่กาญจน์ฯ เลย
แล้วพ่อ แม่ ไม่งงเหรอ อยู่ดีๆ ลูกสาวท้องแล้วกลับมาอยู่บ้าน?
หมิว : หมิวโชคดีที่ครอบครัวหมิวเหมือนเป็นครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยว ทุกคนก็เลยเข้าใจ ทุกคนพร้อมที่จะซัปพอร์ตเรา แล้วก็ให้กำลังใจ
นานไหมกว่าจะง้อ?
กัน : 7 วัน คือตอนแรกคิดว่าต่างคนต่างอยู่ เดี๋ยวอารมณ์เบาลงคงจะคุยได้ แต่มันติดต่อไม่ได้ ก็เลยคิดว่าเป็นเพราะอะไร ก็เลยไปนั่งคุยกับเพื่อนๆ บอกว่ามีเพื่อนเราคนหนึ่งโทร.หาแฟนเราทุกวันเลย คิดว่าโทร.ไปช่วยเคลียร์เพราะว่าคนนี้สมัยก่อนสนิทมาก แต่มารู้ทีหลังว่าโทร.ไปเนี่ยบอกว่าถ้าเป็นพี่ พี่ไม่ทนขนาดนี้ เป็นพี่พี่เลิกไปนานแล้ว แทนที่จะช่วยให้ดีกัน เราเลยรู้ว่าถ้าปล่อยไว้แบบนี้แย่แล้ว เราเลยโทร.หาเพื่อนก่อนเลย เลิกยุ่งเลย ไม่ต้องหวังดีประสงค์ร้าย ไม่ต้อง เดี๋ยวเราไปเอง เลยเดินทางไปที่กาญจน์ฯ ไปง้อเขา เพราะตอนนั้นอย่างแรกเลย ลูกต้องมาก่อน แล้วอีกอย่างเรามานั่งคิดว่าการที่เราชนะคนที่เรารักมันไม่ต่างจากที่เราแพ้ ชนะแล้วได้อะไร ได้แต่ความเจ็บปวด ก็เลยทิ้งแล้วเดินทางไปง้อเขา 2 วัน แล้วกลับมาเป็นครอบครัวเหมือนเดิม
แต่ทุกวันนี้เขาก็ยังแยกกันอยู่?
กัน : คือที่กาญจนบุรีบรรยากาศดีครับ ก็ให้ไปมีสถานที่เลี้ยงลูกสบายๆ แล้วเราออกมาทำงานแบบสบายใจ
บอกรักกันหน่อย?
กัน : อย่างแรกต้องขอบคุณคุณแม่ที่เสียสละเวลาของตัวเอง เพื่อให้ไปช่วยเหลือคนอื่น ไม่มีผู้หญิงคนไหนสำหรับผมประเสริฐเท่าคนนี้ สละทั้งเวลาตัวเอง สละทุกสิ่ง ทุกอย่างเพื่อผม ขอบคุณมาก รักคุณแม่มากๆ ครับ
หมิว : รักคุณพ่อเหมือนกันค่ะ