พระพยอม ตำหนิคนอ้างเอาหลอดบรรจุเลือด หลวงพ่อคูณ มาทำพระเครื่อง
จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Veerapan Pong โพสต์ภาพหลอดเก็บตัวอย่างเลือด มีสติกเกอร์แปะข้อความชื่อระบุว่า หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ 87 ปี และมีรหัสระบุอักษรภาษาอังกฤษและตัวเลข AN : 543333 โดยผู้โพสต์ได้มีการโพสต์ลงในกลุ่มเฟซบุ๊กชื่อ หลวงปู่ศิลา สิริจันโท รุ่นยอดเศรษฐี ซึ่งระบุข้อความเอาไว้ด้วยว่า โลหิตธาตุ หลวงพ่อคูณ น้ำตาจะไหล กราบ
ขอบพระคุณครับ รุ่นยอดเศรษฐี ซึ่งมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ทั้งสาธุที่ได้เห็นเป็นบุญตา และบางคนก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นอีกแง่มุมที่กรณีนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้นได้ และอาจจะไม่ใช่ของจริงเป็นการนำมาหากินบนความเชื่อความศรัทธาประชาชน และอยากให้ทางกระทรวงสาธารณสุขตรวจสอบว่า หลอดเก็บตัวอย่างโลหิตดังกล่าวนั้นออกมาสู่ภายนอกได้อย่างไร เพราะจะต้องผ่านกระบวนการเก็บหรือทำลายที่ถูกต้องในโรงพยาบาลเท่านั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 14 มิ.ย.67 ผู้สื่อข่าวได้ขอความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวกับพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว กล่าวว่าคนที่ทำพวกนี้เป็นพวกสายมู เขาไม่คิดอะไรคิดแต่ว่าจะทำอย่างไรให้เครื่องรางของขลัง เกจิอาจารย์สักดิ์สิทธิ์ ที่ทำออกมาขาย มีกำไรมีคนมาเช่าเยอะ เขาไม่ได้มุ่งเน้นทางพุทธศาสนา แต่เน้นสอนให้เชื่อในทางไสยศาสตร์ เพราะหากเขาไม่ทำให้ดูมีปาฏิหาริย์ มีคุณวิเศษ ก็จะไม่มีรายได้ เพราะนี้คือรายได้หลักของพวกเขาก็ต้องหาอะไรมาอวดอ้างไปเรื่อยๆ
ซึ่งคำสอนในทางพระพุทธศาสนาไม่เคยมีการสอนให้เอาเลือดเอาเนื้อหนังมาทำปาฏิหาริย์อะไรแต่อย่างใด ซึ่งปาฏิหาริย์ที่ควรทำที่สุดก็คือธรรมปาฏิหาริย์ เทศนาปาฏิหาริย์ สั่งสอนให้คนเป็นคนดี จากเลวกลายเป็นดีนี้ถึงจะเรียกปาฏิหาริย์ที่พระพุทธเจ้าไม่ตำหนิ ส่วนปาฏิหาริย์อย่างอื่นทางไสยศาสตร์พระพุทธเจ้าทรงตำหนิ และไม่เคยปล่อยปละละเลยให้มีสิ่งพวกนี้ออกมาเป็นเนื้องอกทางพระพุทธศาสนา ส่วนญาติโยมก็เหมือนกันพอเห็นเขาทำอะไรออกมาอวดอ้างปาฏิหาริย์ก็แห่กันไปเช่าไปซื้อ มันควรจะต้องมีการศึกษาให้ชัดเจนเสียก่อน ไม่ใช่เขาขู่ว่าไม่เชื่ออย่าลบหลู่ก็เชื่อง่ายเชื่อไปหมด ก็กลายเป็นงมงายไปในที่สุด แล้วก็จะมีคนอื่นทำอะไรออกมาเรื่อยๆไม่จบสิ้น เราขาวพุทธต้องเชื่อด้วยศรัทธา ด้วยปัญา ด้วยสติ
อย่างกรณีก็คงจะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบว่าเลือดในหลอดที่มาโชว์นั้นเป็นของจริงหรือของปลอม ได้มาจากรพ.ไหน แค่นี้ยังมีการตรวจสอบเลยท้ายนี้ก็ขอให้ขาวพุทธมีสติ เฉลียวฉลาดรู้ให้ทันสายมูพวกนี้ ส่วนอาตมาบอกได้อย่างเดียวเลยว่าเรื่องนี้ไม่มีทางที่บัณฑิตทางพุทธศาสนาคนไหนจะเห็นด้วยกับการกระทำแบบนี้ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าตำหนิติเตียนเป็นอย่างมาก ซึ่งตอนนี้คนที่ทำก็คงโดนตำหนิไปแล้ว