จากกรณี เพจ อีซ้อขยี้ข่าว3 ได้เผยคลิป เหตุการณ์ระหว่างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโครงการที่อยู่อาศัยแห่งหนึ่ง กับกรรมการนิติฯ พร้อมข้อความระบุว่า.. อาชีพ รปภ.อาจดูไม่มีเกียรติในสายตาของใครบางคนแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเค้าจะไม่มีศักดิ์ศรี…บทสนทนาของกรรมการนิติคอนโดแห่งหนึ่งที่กำลังสั่งงาน รปภ. หญิง สำหรับคลิปวิดีโอดังกล่าว กรรมการนิติฯ ซึ่งเป็นผู้ชาย ถูกระบุว่าเป็น คุณหมอ ได้ต่อว่า ด่าทอ ตำหนิการทำงานของเจ้าหน้าที่ รปภ.หญิงอย่างรุนแรง ด้วยคำพูดไม่สุาภพ พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่โครงการดำเนินการหาคนใหม่มาทำงานแทน ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันในโลกโซเชียลกันเป็นอย่างมาก กับกรณีที่เกิดขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีการเผยแพร่ภาพแชทไลน์ของกลุ่มกรรมการนิติหมู่บ้าน ดังนี้
ต่อมา นางคอรีญะ (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ผู้ที่ถูกตำหนิในคลิปดังกล่าว ได้เปิดใจเล่าว่า เหตุเกิดเมื่อวานเวลา 11:50 น. ตอนนั้นกำลังรับประทานอาหารอยู่กันอยู่ 2 คน คนที่รับประทานอาหารกับตนจะอยู่ฝั่งขาออก และตนจะอยู่ฝั่งขาเข้า ช่วงนั้นพี่ผู้ชายกรรมการนิติฯ กำลังเข้ามาพอดี ตนกำลังทานข้าวอยู่จึงไม่ได้หันได้สังเกต “ตอนนั้นได้เปิดไม้กั้นทิ้งไว้ รถจึงผ่านเข้ามาได้ แต่ไม่ได้ยกมือไหว้ ซึ่งคนที่กำลังเข้ามาเป็นกรรมการของโครงการ หลังจากนั้นได้มีการส่ง LINE มาแจ้งพนักงานว่า ไม่ได้มีการโบกรถ ไม่ได้เคารพเขา ประมาณนี้ จากนั้นเหตุการณ์ก็เป็นไปตามในคลิปที่เผยแพร่กันอยู่
นางคอรีญะ กล่าวอีกว่า หลังจากเหตุการณ์นั้นทางโครงการได้ไล่ตนออกจากงาน ซึ่งทางโครงการได้แจ้งข้อหาว่าไม่ได้ทำการความเคารพ และไม่ได้ทำงาน ซึ่งหลังจากนี้จะมีการเสียค่าปรับหรือเปล่าตนก็ยังไม่รู้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนรู้สึกเสียใจ น้อยใจ ตั้งแต่ทำงานมายังไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับตัวเอง
ซึ่งหลังจากนี้ตนคงต้องหางานใหม่ทำ ซึ่งทางบริษัทได้แจ้งทางเรามาให้ไล่เราออก แต่เราก็ไม่คิดว่าจะเจอพฤติกรรมอะไรแบบนี้ที่ผู้ชายมาทำกับผู้หญิง แถมยังมีการสั่งเราให้วิดพื้นร้อยครั้งก่อนที่จะไล่เราออกและให้เราถ่ายวีดีโอส่งไปให้เขาดู แต่ทางเราก็ไม่ได้ทำตามที่สั่ง
ส่วนทางด้านของหมอ นิติคอนโด ก็เปิดใจว่า ไม่ได้ด้อยค่าอาชีพ รปภ. แต่ด้อยค่าการทำงาน เคยเข้าไปเตือนดีๆหลายครั้ง แต่ไม่ปรับปรุงตัว ไม่ทำงาน นั่งเล่นโทรศัพท์ แต่รับเงินเดือนเต็ม และที่ต้องทำเพราะมีลูกบ้านร้องมาให้ช่วยเหลือ เคยแจ้งให้บริษัท รปภ. เปลี่ยนตัวหลายครั้งก็หมือนเดิม ถามทำไมพอเกิดเรื่องเปลี่ยน รปภ.ทันที
อย่างไรก็ตามทางด้านโลกโซเชียลก็มองว่า มีวิธีการที่ดีกว่านี้ที่จะตักเตือน ไม่ใช่การด่าทอด้วยคำหยาบ