เมื่อเวลา 11.10 น. วันที่ 19 สิงหาคม สภ.เมืองอุดรธานี ออกตรวจในพื้นที่รับผิดชอบ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทองว่า มีหญิงสาวพร้อมด้วยสามี ถูกหลอกให้มาทำงานในเทศบาลนครอุดรธานี แต่ถูกปล่อยทิ้งไม่มีเงิน ต้องอาศัยสถานีรถไฟ และร้านค้าเป็นที่หลับนอนและหลบฝน หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยสายตรวจ 191 รุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุอยู่หน้าร้านค้าในตลาดปรีชา ข้างร้านสะดวกซื้อ ถนนทองใหญ่ เทศบาลนครอุดรธานี พบ น.ส.ปาริฉัตร อายุ 19 ปี และนายธวัชชัย อายุ 20 ปี 2 สามีภรรยา นั่งอยู่ริมฟุตปาธ ทั้งคู่อยู่ในสภาพอิดโรย สับสน แต่พูดจารู้เรื่อง
โดยมีนางน้ำทิพย์ แซ่ตัน อายุ 49 ปี แม่ค้าหมูทอดไก่ทอด เป็นผู้แจ้งเหตุและร่วมให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ น.ส.ปาริฉัตรให้การทั้งน้ำตาว่า ตนเองและสามีอยู่ที่อำเภอแห่งหนึ่ง มีลูกด้วยกัน 1 คน เป็นผู้ชายอายุประมาณ 8 เดือน ตนตกงาน ไม่มีงานทำ สัปดาห์ที่แล้วจึงโพสต์หางานผ่านเฟซบุ๊ก บ่ายวันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม มีเฟซบุ๊กชื่อ “thebackofit athitanturn” ทักข้อความมาเสนองาน บอกว่ามีงานขายเสื้อผ้าและขายลูกชิ้นทอดในเมืองอุดรธานี ตนจึงตกลงจะมาทำงานด้วย จึงนั่งรถประจำทางเดินทางเข้าเมืองมากับสามี มีเงินติดตัวมาไม่ถึงร้อย มาถึงเมืองอุดรก็เป็นช่วงเย็นวันเดียวกัน เมื่อมาถึงเขาก็ให้ไปรอที่หนองประจักษ์ รออยู่นานเขาก็บอกให้มาที่ยูดีทาวน์ แถวสถานีรถไฟ จึงเดินเท้ามาเรื่อยๆ
ตอนนั้นเขาก็ทักว่าจะมีคนโทรมาหาอีกครั้งให้รอก่อน แล้วเขาก็บอกว่าจะพักที่ไหน จะพักกับสามีใช่มั้ย ตนก็บอกจะพักกับสามี เขาก็บอกมีที่พัก ไม่ต้องเสียค่าเช่า เสียแค่ค่าน้ำค่าไฟเอง แต่ต้องมีค่าประกันห้องพัก 500 บาท ตนจึงได้โทรไปยืมเงินญาติมาให้เขาก่อน หลังจากนั้นเขาก็ติดต่อยากขึ้น พวกตนได้แต่รอให้เขาติดต่อมา เขาก็ขาดการติดต่อไป ตนต้องอาศัยนอนที่สถานีรถไฟ เงินที่มีก็หมดไป ข้าวก็ไม่ได้กิน จะไปไหนยังไงต่อก็สับสนไปหมด จนมีพี่สาวที่ขายหมูทอดมาสอบถาม จึงเล่าให้เขาฟัง อยากให้คนที่หลอกตนเองมารับผิดชอบด้วย ต้องเป็นหนี้ยืมเงินญาติ ตั้งใจมาทำงานหาเงินเลี้ยงลูก แต่ต้องมาถูกหลอกแบบนี้ ตนเสียใจมาก ด้านนางน้ำทิพย์ ผู้แจ้งเหตุ เล่าว่าตนขายหมูทอดไก่ทอดอยู่บริเวณนี้ทุกวัน เห็นน้อง 2 คนเดินไปเดินมาหลายวันแล้ว
เช้าวันนี้น้องผู้หญิงเดินมาขอซื้อหมูทอด 1 ไม้กับข้าวเหนียว 10 บาท ตอนสายก็เดินมาขอซื้ออีก ตนก็สงสัยว่าทำไมซื้อไปน้อยจัง และสังเกตว่าน้องเขามีแววตาเศร้า จึงสอบถามว่า จะไปไหน มาทำอะไรที่นี่ เขาก็เล่าให้ฟังว่าถูกหลอกให้มาทำงาน ไม่มีเงินกินข้าว ไม่มีเงินกลับบ้าน ตนก็ไปถามน้องผู้ชายซ้ำอีก ก็ได้ข้อมูลตรงกัน ขอดูเอกสารก็มีบัตรประชาชน เตรียมพร้อมจะมาสมัครงานจริงๆ ตนสงสารจึงโทรแจ้งตำรวจให้มาช่วยเหลือ เบื้องต้นตำรวจได้นำสองสามีภรรยาขึ้นรถกระบะตราโล่ ไปให้ข้อมูลเพิ่มเติมและชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือ เพื่อประสานญาติพี่น้องให้ได้รับทราบ และหากประสงค์แจ้งความดำเนินคดีกับผู้หลอกลวงผ่านโซเชียล ก็จะทำการลงบันทึกประจำเอาไว้ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป