จากกรณีสื่อโซเชียลได้มีการลงเรื่องราวหญิงชราวัย 69 ปี พักอาศัยอยู่ห้องเช่าย่านคลองสามเพียงลำพัง โดยไม่มีลูกหลานหรือญาติพี่น้องดูแล หนำซ้ำยังถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจ หลอกให้โอนเงินทุกวัน จนกระทั่งค้างค่าเช่าห้องหลายเดือน จนต้องระหกระเหินเร่ร่อน สร้างความหดหู่ใจแก่สังคมออนไลน์เป็นอย่างมาก
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2567 ทาง อบต.คลองสาม โดย รศ.วิระศักดิ์ ฮาดดา นายก อบต.คลองสาม พร้อมด้วยกองสวัสดิการสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ลงพื้นที่บ้านเลขที่ 17/5 ซอย 8/3 หมู่ 7 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อหาทางช่วยเหลือหญิงชรารายดังกล่าว
จากการตรวจสอบพบว่าหญิงชรารายดังกล่าว ชื่อ นางณภัทร ธีมาณิชกุล อายุ 69 ปี ได้เช่าอาศัยอยู่ที่บ้านเช่าดังกล่าว ห้องเลขที่ 24 ซึ่งหน้าห้องมีรถจักรยานยนต์จอดอยู่ 1 คัน ภายในห้องมีของใช้วางกองเอาไว้เป็นจำนวนมาก
จากการสอบถามนางณภัทร ธีมาณิชกุล อายุ 69 ปี อ้างว่า ตนเคยรวยมีเงินเป็นหมื่นล้าน มีธุรกิจสายการบิน มีที่ดินที่ติดทะเลทั้งประจวบฯ และบางแสน จนกระทั่งตอนนี้ไม่เหลือแม้แต่บาทเดียว อีกทั้งลูกทั้ง 3 คนก็ไม่มาดูแล โดยลูกคนโตที่อยู่ต่างประเทศเขาก็บอกว่าเขาต้องดูแลครอบครัว ส่วนคนเล็กพอไปหา เมียเขาก็ไม่ให้เจอ ทุกวันนี้เสียใจมากแต่ก็ไม่เป็นไร ในส่วนที่ตนโดนหลอกให้โอนเงินนับแสนนั้น ตนก็จำไม่ได้ว่าโอนไปเท่าไรแล้ว แต่ทำมานานนับปีแล้ว จนบัดนี้ก็ยังไม่มีแววว่าจะได้เงิน พอตนสอบถามไป เขาก็บอกว่าจะได้แล้วแต่ก็ไม่เห็นได้สักที จนกระทั่งตนไม่มีเงินส่ง เขาก็เงียบหายไป ซึ่งชีวิตเราไม่แน่นอน สูงสุดได้ก็ต่ำสุดได้ ตนปลงแล้ว ทุกวันนี้เพียงเข้าวัดนั่งสวดมนต์ทำสมาธิก็พอแล้ว
ในขณะที่ทางด้านนายวันดี ไต่ตามบุญ เพื่อนข้างห้องเช่าที่ติดกับป้าณภัทร เล่าให้ฟังว่า นางณภัทรได้ย้ายมาอยู่ที่นี่กว่า 2 เดือนแล้ว โดยป้าณภัทรแกเล่าทั้งน้ำตาให้ตนฟังว่า ถูกหลอกจนหมดตัว แถมลูกก็ติดต่อไม่ได้อีก ซึ่งบางวันป้าณภัทรก็ไม่มีข้าวกิน ตนก็จะแบ่งข้าวและน้ำให้เป็นประจำ รู้สึกสงสารป้าแกมาก อยู่ตัวคนเดียว หวั่นหากมีอะไรเกิดขึ้นใครจะมาช่วยเหลือแกก็ไม่รู้
ด้านนางบุญมา กลับเจริญ เจ้าของห้องเช่าเดิมที่ให้ป้าณภัทรเช่าอยู่ เล่าให้ฟังว่า เมื่อ 4 เดือนที่ผ่านมา มีผู้ชายนำนางณภัทรมาทิ้งไว้ที่บ้านเช่าของตน โดยสอบถามถึงค่าเช่าเท่าไร แล้วก็ขนของมาอยู่ทันที ซึ่งหลังจากผ่านไปหนึ่งเดือน นางณภัทรก็ไม่มีค่าเช่าให้ ตนก็รู้สึกสงสารจึงไม่ว่าอะไร จนกระทั่งผ่านไป 2 เดือน ก็ไม่มีเงินมาจ่ายค่าเช่าอีก จึงได้สอบถามนางณภัทรว่าทำงานอะไร และมีญาติพี่น้องไหม เขาก็ตอบว่าไม่มีงานทำ มีเพียงลูกที่อยู่ต่างประเทศ 1 คน และอีก 2 คนไม่รู้อยู่ไหน ซึ่งเขาเคยบ่นกับตนว่า เครียด อยากจะผูกคอตาย ตนก็คอยแต่ให้กำลังใจเขาไปเท่านั้น
ทั้งนี้ ในส่วนเรื่องที่นางณภัทรถูกมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงินเป็นแสนนั้น ตนก็ไม่ทราบ แต่จากการสอบถามนางณภัทร ก็บอกว่าเล่นโปร ตนก็ไม่รู้ว่าอะไร แต่เขาบอกว่าไม่ใช้มิจฉาชีพ แต่ก็ไม่เคยเห็นเขาได้เงินจากตรงนี้นะ ดังนั้นจึงฝากวอนลูกหลานให้ช่วยมารับเขาไปดูแลด้วย เนื่องจากเขาแก่มากแล้วและสุขภาพไม่ดีมากตอนนี้
ส่วนทางด้าน รศ.วิระศักดิ์ ฮาดดา นายก อบต.คลองสาม กล่าวว่า หลังทราบข่าวว่าทางป้าณภัทรนั้นถูกมิจฉาชีพที่อ้างตัวเป็นตำรวจหลอกเงินเป็นแสน จนกระทั่งไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าห้องแล้วไม่มีที่อยู่นั้น ทาง อบต.คลองสาม ได้มีการสั่งการให้กองสวัสดิการสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หาทางช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว และประสานเจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดปทุมธานี เพื่อขอความช่วยเหลือ โดยจะส่งเรื่องเข้ารับการคุ้มครองที่สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งหญิงให้แก่ป้าณภัทร แต่ก็ต้องอยู่ในความสมัครใจของทางป้าณภัทรว่าจะไปอยู่หรือไม่