November 22, 2024

แม่น้องการ์ตูน ขอยอมแพ้ 10 ปีที่สู้ คู่กรณีลอยตัว ไม่ทำตามคำสั่งศาล ติดคุกแค่1ปี แต่เหยื่อสูญเสียทุกอย่าง

 

แม่น้องการ์ตูน ขอยอมแพ้ 10 ปีที่สู้ คู่กรณีลอยตัว ไม่ทำตามคำสั่งศาล ติดคุกแค่1ปี แต่เหยื่อสูญเสียทุกอย่าง

แม่น้องการ์ตูน ขอยอมแพ้ 10 ปีที่สู้ คู่กรณีลอยตัว ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย ไม่ทำตามคำสั่งศาล ติดคุกแค่1ปี แต่เหยื่อสูญเสียทุกอย่าง สามีตาย ลูกพิการ อนาคตพัง เผยอีกไม่กี่วันคดีหมดอายุความ

จากกรณีที่ “น้องการ์ตูน” ถูกรถกระบะแต่งซิ่งเมาแล้วขับแข่งกันมา เสียหลักพุ่งชนร้านร้านสเต็ก ปากซอยเอกชัย 119 เมื่อปี 2557 ส่งผลให้พ่อของน้องการ์ตูนเสียชีวิต ส่วนน้องการ์ตูน ต้องมาพิการกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ชีวิตคนในครอบครัวเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ส่วนคนขับรับโทษติดคุก 1 ปี ไม่รอลงอาญาและจ่ายค่าชดเชย 6 ล้านบาท ก่อนได้รับการปล่อยตัวออกมา จนถึงวันนี้ผ่านมา 10 ปี แล้ว คู่กรณีไม่เคยมาเยี่ยมดูอาการ เยียวยาและปฏิบัติตามคำสั่งศาล ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

แม่น้องการ์ตูน ขอยอมแพ้ 10 ปีที่สู้ คู่กรณีลอยตัว ไม่ทำตามคำสั่งศาล ติดคุกแค่1ปี แต่เหยื่อสูญเสียทุกอย่าง

ล่าสุดทางคุณแม่น้องการ์ตูน ได้ออกมาโพสต์ตัดพ้อ โดยระบุว่า จะไม่ขอสู้แล้ว เนื่องจากอีกไม่กี่วันคดีก็จะหมดอายุความ โดยระบุว่า สู้ก็แพ้ ไม่สู้ก็แพ้ ขอสรุป บทชีวิต ของแม่และน้องการ์ตูน ในเดือนที่เกิดเหตุ 19 กันยายน 2557 เหตุการณ์ที่ไม่มีใครให้อยากเกิดขึ้นและ คดีความจะหมดในวันที่ 19 กันยายน 2567

อุทาหรณ์ภาคต่อ (บทสรุป) ประเทศไทย ขับรถแข่งกัน บนถนนหลวงผลลัพธ์คือตาย 1 ศพ เด็ก 5 ขวบ พิการอีก 1 คน โทษที่จะได้รับคือ ติดคุก 1 ปี และไม่ต้องเสียเงินเยียวยาตามคำสั่งศาล
แม้แต่บาทเดียว ย้ำ..แม้แต่บาทเดียว

วิธีง่ายๆ ก็แค่ไม่ครอบครองทรัพย์สินอะไรยาวๆ 10 ปี และให้เจ้าทุกข์ฟ้องล้มละลายก็ทนอีกแค่ 3 ปี
(ก็ทนมา 10ปี แล้ว ทนอีกแค่ 3 ปี ชิวๆ) The end จบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง Set Zero กลับมาใช้ชีวิตปกติได้สบายๆ

ฝั่งเหยื่อ สิ่งที่เหยื่อจะได้รับคือ??? สูญเสียชีวิตคนในครอบครัว ทุกอย่างที่เคยวางแผนไว้ให้ลูก พัง‼️ครอบครัว พัง‼️จากชีวิตครอบครัวที่ไม่ลำบาก พัง‼️ ต้องหาเงินดูแลรักษาผู้พิการตลอดชีวิต (รายจ่ายตลอดชีพจนกว่าจะสิ้นลม ซึ่งไม่รู้ว่าแม่หรือลูกที่จะสิ้นลมก่อนกัน)

กระดาษ 1 แผ่นที่ศาลให้ตอนจบคดีว่าคนผิดจะต้องเยียวยาและชดใช้ให้กี่บาท (ศาลแค่สั่งว่าถ้าจะจ่ายต้องจ่ายกี่บาท แต่ไม่จ่ายก็ได้ก็ศาลแค่สั่งเฉยๆ) เจ้าทุกข์ถ้าอยากได้เงินก็แค่ไปหาเงินมาจ้างคนให้ตามสืบทรัพย์ 10 ปี +3ปี (ตอนฟ้องล้มละลาย) ถ้าเจ้าทุกข์ไม่มีเงินจ้างล่ะ? ก็ตามยึดทรัพย์ไม่ได้เลยไง (ก็ไม่มีเงินไปจ้างแล้วใครจะมาทำให้ฟรีๆคะ) แล้วถ้าคนผิดมันตั้งใจทำให้ตัวเองไม่มีทรัพย์สินล่ะ?
ก็เท่ากับจ่ายเงินจ้างคนตามสืบทรัพย์ฟรีๆ (ก็ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่ายอ่ะ จะทำไม มีปัญญาทำไรได้)

เพราะกฏหมายกำหนดให้ ” เหยื่อ “ต้องมาแจ้งกองบังคับคดีเองว่า ผู้กระทำความผิดมีเงินมีทรัพย์อะไรให้ไปตามยึดบ้าง (อธิบายง่ายๆคือ หน้าที่ของ “เหยื่อ”หรือเจ้าทุกข์คือไปหาไปสืบทรัพย์ผู้กระทำผิดเอาเองนะเธอ เพราะไม่ใช่หน้าที่ของหน่วยงานรัฐนะตัวเธอ

“เหยื่อ” เงินไม่มีต้องทำไง? ง่ายๆก็ทนให้ครบ 10 ปี แล้วไปหาเงินไปกู้เงินมาจ้างทนายทำเรื่องฟ้องล้มละลายผู้กระทำความผิดเอง (เหยื่อจ่ายอีกแล้ว) *คดีน้องการ์ตูนหน่วยรัฐช่วยส่งทนายมาทำเรื่องส่งฟ้องล้มละลายให้* ขั้นตอนนี้จะได้กระดาษใบที่ 2 มาใส่กรอบโชว์แลกกับความอัปยศของชีวิตที่ฝั่ง”เหยื่อ”ได้รับมาตลอด 10ปี

ระหว่างทางมีทนายหลายท่านยื่นมือเข้ามาให้คำปรึกษาและอาสาตามสืบทรัพย์ให้ พอทำไปช่วงนึงก็หายกันไป เพราะแต่ละท่านก็ต้องทำงานส่วนของตัวเองเพราะทุกท่านก็มีครอบครัว ไม่สามารถช่วยได้ตลอด เพราะทุกอย่างมีค่าใช้จ่ายทั้งนั้น (ตรงจุดนี้คุณแม่เข้าใจและต้องขอขอบพระคุณพี่ๆทนายทุกๆท่านมากๆจริงที่เข้ามาช่วยคุณแม่นะคะ)

ขอย้อนกลับไปเรื่องการดูแลรักษาลูกที่เป็นผู้ป่วยพิการไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ เพราะความแรงของรถที่พุ่งชนทำให้ “สมอง”ไหลออกมาจากกะโหลกศรีษะ เป็นเหตุให้สมองตายไป 75%
ไม่เพียงแค่นั้นดวงตาทั้ง2ข้างยังบอดสนิทและพูดไม่ได้ อวัยวะภายในบางส่วนโดนตัดทิ้งเพื่อรักษาชีวิต ไม่มีภูมิคุ้มกันร่างกายใดๆและเหลือปอดเพียง 1 ข้าง แต่ชีวิตของน้องการ์ตูน…ยังมีลมหายใจ

น้องการ์ตูนยังสามารถยิ้มและร้องไห้ได้ นั่นคือการสื่อสารที่เหลืออยู่เพียง 2 สิ่ง แต่การยิ้มและร้องไห้ของน้องการ์ตูนนั้น คุณแม่ไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่าน้องการ์ตูนยิ้มเพราะอะไรหรือร้องไห้เพราะอะไร
หัวอกคนเป็นแม่ไม่มีทางเลือกอื่น ทางเดียวที่ต้องทำคือการดูแลรักษาชีวิตของลูกให้มีลมหายใจต่อไป
แต่สิ่งที่ต้องแลกกับลมหายใจของลูก คือค่าใช้จ่ายในเเต่ละเดือนสูงมากๆจนบางครั้งก็ท้อ
และสิ่งที่แม่ต้องคิดหนักและเจ็บอยู่ในอก จุกอยู่ในใจตลอด

คือในวันข้างหน้า ถ้าแม่ไม่สามารถดูแลน้องได้แล้ว แม่ใกล้สิ้นลมขึ้นมา สิ่งที่แม่ต้องเลือกคือต้องให้ลูกไปก่อนแม่ เพราะไม่มีใครที่จะดูแลรักษาน้องได้อีกต่อไป นั่นก็แปลว่าน้องจะมีอายุขัยได้มากที่สุด เท่ากับที่แม่จะมีชีวิตอยู่

เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงและสภาพที่เป็นอยู่ ต้องดำเนินไปในวิถีทางนี้ ในละครหรือหนังตอนจบใช่ว่าจะ happy ending เสมอไป หลายต่อหลายเรื่องก็จบแบบ bad ending เฉกเช่นเดียวกับเรื่องนี้
นี่คือบทสรุปของคดี “น้องการ์ตูน” ที่เกิดขึ้น เมื่อ 19 กันยายน 2557 คดีดังที่ไม่มีใครลืม….แต่
คนผิดสบายตัว…แล้วถีบความหายนะอยู่กับเหยื่อไปตลอดชีวิต

กฎหมายไทยช่วยได้แค่ กระดาษจริงๆ…นะ…หรือ…??? #thailand only แม่ขอกราบขอบพระคุณ สื่อมวลชน ทุกท่าน รวมถึงรายการดังๆทุกรายการ และเพจ ใหญ่ทุกเพจ ที่ช่วยเหลือแม่ และแฟนเพจทุกท่านที่สนับสนุนแม่ และน้องการ์ตูนมาเสมอ นับจากนี้ขอไม่สู้แล้ว ขอให้เคสแม่ เป็นอุทหรณ์ สอนใจ แก่ผู้ประสบเหตุการณ์เช่นกันนะคะ

อ่าน เปิดใจ ‘แม่น้องการ์ตูน’ สู้ลำพัง 10 ปี ป่วยซึมเศร้า เหนื่อยจนไม่อยากมีชีวิต

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *