by ธนาคารเตือนแล้วไม่เชื่อ ยายหลงกลมิจฉาชีพมาเป็นปี สูญเงินทั้งชีวิตเกือบ 3 ล้าน
ธนาคารเตือนแล้วไม่เชื่อ ยายหลงกลมิจฉาชีพมาเป็นปี สูญเงินทั้งชีวิตเกือบ 3 ล้าน หอบสลิปโอนเงินแจ้งความ
วันที่ 21 มิ.ย.67 ที่ สภ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา นางสมจิตร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 78 ปี ชาวบ้าน ต.ท่าตะเกียบ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา พร้อม น.ส.วารี อายุ 31 ปี หลานสาว นำสลิปการโอนเงินเข้าพบ พ.ต.ท.สุรพิสิฐ ไหมงำ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ท่าตะเกียบ เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษหลังถูกตุ๋นเงินเกือบ 31 ล้านบาท
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำสลิปการโอนของ นางสมจิตร จำนวน 38 ใบ มาตรวจสอบ โดยเริ่มโอนครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.66 จนถึงปัจจุบันเมื่อปลายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา รวม 2,900,000 บาท
นางสมจิตร เปิดเผยว่า ตนเล่นเฟซบุ๊กเมื่อปีที่แล้ว จู่ๆ ก็มีชาวต่างชาติอ้างเป็นทหารรบสงคราม แชทมาขอความช่วยเหลือ บอกว่า “ช่วยผมด้วย ผมต้องการนำกล่องที่บรรจุเงินสดดอลลาร์ ตีเป็นเงินไทย 53 ล้านบาท เข้ามาในประเทศไทย แต่มีค่าใช้จ่ายด้านภาษีนำเข้า ด้านการเคลียร์ ปปง. หากคุณยายช่วยจะให้เงินคืนคุณยาย 7 ล้าน พร้อมค่าใช้จ่ายทั้งหมด”
ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ ธกส. เคยเตือนแล้วว่าเป็นมิจฉาชีพมาหลอก แต่ตนไม่เชื่อ จึงไปให้ตามร้านขายของชำแถว อ.ท่าตะเกียบ ตามร้านสะดวกซื้อโอน ยอดโอนครั้งสุดท้าย เมื่อปลายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา จำนวน 2 ใบเสร็จ เข้าบัญชีชื่อ จุฑาทิพย์ พาพรม รวม 5 แสน
รายได้ของตนหลังสามีเสียชีวิตก็มีสวนมะม่วงส่งออก 100 ไร่ ให้ชาวเบ้านเช่าที่การเกษตรปีละ 2 แสนกว่าบาท มีค่าเช่าห้องแถวอีก หากมิจฉาชีพดูข่าวช่วยนำเงินมาคืนตนบ้าง ถึงจะคืนไม่ครบก็ยังดี
